ดีเอสไอ-ปปง. ลุยสอบ กก.สหกรณ์ฯ รถไฟ นำเงินซื้อที่ดิน19แปลง เสียหาย 2พันล.
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ต.ท.ยุทธนา แพรดำ ผู้อำนวยการกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายสาโรจน์ สุขแสงดาว ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ลงพื้นที่ ต.วังจันทร์ อ.แก่งกระจาน หลังจากสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด ร้องเรียนให้ตรวจสอบการทุจริต มีการนำเงินออกจากสหกรณ์ฯโดยวิธีปล่อยเงินกู้พิเศษ ทำให้สหกรณ์ฯได้รับความเสียหาย 2,279 ล้านบาท
พ.ต.ท.ยุทธนา กล่าวว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ดีเอสไอ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ปปง.ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีที่มีผู้ร้องสหกรณ์ฯ โดยมีคณะกรรมการสหกรณ์ฯจำนวนหนึ่งนำเงินออกจากสหกรณ์กว่า 2 พันล้านบาท และมีการนำเงินมาซื้อทรัพย์สินคือที่ดินในพื้นที่ อ.แก่งกระจาน โดยนำเงินจากการทุจริตไปจัดซื้อที่ดินเป็นโครงการบ้านพัก รวม 19 โฉนดบนพื้นที่ประมาณกว่า 82 ไร่เศษ พบเป็นความผิดมูลฐาน เจ้าหน้าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ในส่วนของ ดีเอสไอ.และ ปปง.จะติดตามการฟอกเงิน ขณะนี้อยู่ในชั้นตรวจสอบเส้นทางการเงิน
“จากนั้นจะพิจารณาว่าจะสามารถรับคดีฟอกเงินเป็นคดีพิเศษหรือไม่ เนื่องจากมีมูลค่าทรัพย์สินเกิน 100 ล้านบาท ถ้ารับเป็นคดีพิเศษแล้ว จะเร่งดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินและการฟอกเงิน โดยดูเจตนาว่าการเอาเงินที่ทุจริตมาโอนเปลี่ยนแปลงสภาพ หรือปกปิดหรือกระทำด้วยประการใดๆให้เห็นว่าเป็นเงินที่ได้มาถูกต้อง ถือว่าเป็นความผิดทางอาญา “ พ.ต.อ.ยุทธนา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับกรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563 สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด มีหนังสือขอความเป็นธรรมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ขอให้ ดีเอสไอ ดำเนินการสอบสวน ต่อมาวันที่ 12 กกุมภาพันธ์ 2563 พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดี ดีเอสไอ.มอบหมายให้คณะทำงานสืบสวนข้อเท็จจริงอาชญากรรมทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมดำเนินการ
โดยผู้ร้องแจ้งว่า สหกรณ์ฯได้ตรวจสอบพบว่ามีผู้บริหารสหกรณ์รายหนึ่งกับพวกได้ทุจริต โดยอ้างว่าจะจัดทำโครงการจัดสรรที่ดินให้สมาชิกสหกรณ์ และได้นำเงินของสหกรณ์ไปซื้อที่ดิน 19 แปลงในต ต.วังจันทร์ อ.แก่งกระจาน เนื้อที่รวม 82 ไร่ 67 ตารางวา แต่ใช้ชื่อตนเองเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินและมีการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลที่เป็นชื่อตนเองเพื่อถือกรรมสิทธิ์ และดำเนินโครงการบ้านจัดสรร2 แห่ง โดยได้ยื่นคำขอออกใบอนุญาตเพื่อทำการจัดสรรที่ดินต่อสำนักงานที่ดินจังหวัดเพชรบุรี สาขาท่ายาง โดยไม่ได้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสหกรณ์ฯ
