จนท.อุทยานฯตื่นเต้น “นกชาปิไหน” รวมตัวกว่าครึ่งร้อยเกาะรอก จ.กระบี่

หาดูยากมาก นกชาปิไหนรวมตัวกว่าครึ่งร้อยที่เกาะรอก อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เผยปีนี้มามากสุด ขณะที่ส่วนใหญ่พบนกชนิดนี้อยู่สันโดษ คาดมาเนื่องจากเกาะสงบ

วันที่ 12 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ หมู่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ประจำ เกาะรอ อำเภอเกาะลันตา บันทึกภาพขณะที่นกชาปิไหน จำนวนกว่า 40 ตัว บินลงมาหาอาหารกินบริเวณแนวป่าใกล้ชาดหาดหน้าที่ทำการของอุทยานฯ บยเกาะรอก ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ต่างตื่นเต้นดีใจกับนกชาปิไหนที่หาดูยาก และไม่เคยพบว่ามีจำนวนมากมาก่อน โดยฝูงดังกล่าวที่บริเวณนั้น มีประมาณ 20 กว่าตัว และห่างไปอีก 1 ฝูงกว่า 20 ตัวเช่นกัน รวมแล้วมีจำนวนกว่า 40 ตัว

นายวีระศักดิ์ ศรีสัจจัง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา กล่าวว่า ปีนี้ เป็นปีแรกที่มีนกชาปิไหนจำนวนมาก บินมารวมตัวกันที่เกาะรอก ซึ่งไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่ทุกปี ก็จะมีนกชาปิไหนบินมาไม่ถึง 10 ตัว แต่ปีนี้มีเกือบครึ่งร้อย ซึ่งบ่งชี้ถึงสภาพของเกาะรอกหลังจากได้หยุดการท่องเที่ยวจากโควิด และอยู่ในช่วงปิดการท่องเที่ยวของหมู่เกาะลันตาไปจนถึงเดือนตุลาคม จึงอาจทำให้นกบินมารวมตัวกัน ทั้งที่นกชนิดนี้จะเป็นนกที่สันโดษพอสมควร หลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่คอยติดตามว่านกมารวมตัวกันเพื่ออะไร เนื่องจากทางวิชาการนั้นนกชาปิไหนจะจับคู่ผสมพันธุ์กันตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน

สำหรับ นกชาปีไหน เป็นนกชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในวงศ์นกพิราบและนกเขา พบกระจายพันธุ์เฉพาะหมู่เกาะต่าง ๆ บริเวณทะเลอันดามันและอินโด-แปซิฟิก เช่น หมู่เกาะนิโคบาร์, หมู่เกาะอันดามัน, หมู่เกาะโซโลมอนและปาเลา ในประเทศไทยจัดเป็นนกที่หาได้ยากมากชนิดหนึ่ง นกชาปีไหน มีขนาดลำตัวเท่าๆ กับไก่แจ้ มีขนาดเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 40-41 เซนติเมตร มีลำตัวขนาดใหญ่ แต่มีหัวขนาดเล็กและมีเนื้อนูนเป็นตุ่มบริเวณจมูก ขนตามลำตัวเป็นสีเขียวเหลือบเทา ขนหางสีขาว แต่จะมีขนบริเวณคอห้อยยาวออกมาเหมือนสร้อยคอ ซึ่งขนนี้จะยาวขึ้นเมื่อนกมีอายุมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีขาขนาดใหญ่แข็งแรง เพราะเป็นนกที่ชอบเดินหากินตามพื้น

นกชาปีไหน แม้จะเป็นนกที่หากินบนพื้นดินเป็นหลัก แต่ก็เป็นนกที่สามารถบินได้ มีรายงานว่าสามารถบินข้ามไปมาระหว่างเกาะต่าง ๆ ได้ เป็นนกที่หากตกใจจะบินหรือกระโดดขึ้นบนต้นไม้ และไม่ค่อยส่งเสียงร้องนัก นานครั้งจึงจะได้ยินเสียงร้องทีหนึ่ง แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดย่อย ปัจจุบันเป็นนกที่ถูกจัดให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image