รถตู้-ป้ายเขียวภูเก็ต 700คัน วอนไฟแนนซ์ขยายเวลาผ่อนค่างวด โอดขาดรายได้ ยังไม่ฟื้นผลกระทบโควิด-19

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2563 ที่บริเวณลานอเนกประสงค์สะพาน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เจ้าของรถตู้และรถยนต์ป้ายเขียว รวมตัวกันในนาม“กลุ่มร้องเรียนไฟแนนซ์โตโยต้าลิชซิ่ง” เนื่องจากได้รับกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กว่า 700 คัน รวมตัวกัน รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องยื่นต่อบริษัท เพื่อขอให้ช่วยขยายระยะเวลาผ่อนชำระค่างวดออกไปอีก 6 เดือน หรือ 1 ปี หลังครบกำหนดผ่อนผันรอบแรก 3 เดือนแล้ว เนื่องจากขณะนี้พื้นที่จังหวัดภูเก็ตยังไม่มีนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ทำให้ไม่มีรายได้ที่จะนำมาผ่อนค่างวด เพราะรายได้หลักมาจากการให้บริการรถนำเที่ยว และรถที่เช่าซื้อมาเพื่อประกอบอาชีพด้านการท่องเที่ยว


นายณรงค์ (สงวนนามสกุล) ตัวแทนผู้ประสานงานกลุ่มเจ้าของรถ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ได้ยื่นข้อเสนอไปยังบริษัทฯ 3 เรื่อง คือ ขอให้ช่วยเหลือลูกหนี้ที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ตเป็นลำดับแรก เนื่องจากได้รับผลกระทบหนักมาก เพราะผู้เช่าซื้อจะเป็นเจ้าของรถตู้บริการสาธารณะ รถแท็กซี่และรถส่วนบุคคลที่มีทำงานโรงแรม ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้าง และไม่มีนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ขอให้ช่วยยืดระยะเวลาการพักชำระหนี้เพิ่มจากรอบแรก 3 เดือน เป็น 6 เดือน หรือ 1 ปี หรือจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น และขอให้ปรับโครงสร้างการผ่อนหรือโครงสร้างการชำระหนี้ เช่น เคยผ่อนเดือนละ 15,000 บาท เมื่อมาเจอโควิดทำให้รายได้ลดลงสามารถจ่ายได้น้อยลงตามกำลัง เป็นต้น ทุกคนไม่ต้องการเป็นหนี้แต่ไม่มีปัญญาผ่อน เพราะงานไม่มีและนักท่องเที่ยวยังไม่กลับมา


“ฝากไปยังไฟแนนซ์ทุกค่ายเข้ามาดูแลลูกค้าสักนิด เพราะในภาวะปกติต่างก็เป็นลูกค้าที่ดี รวมทั้งอยากให้คำนึงถึงอนาคต หากมีการฟ้องร้องลูกค้าทั้งหมด และลูกค้าติดเครติดบูโร เมื่อท่องเที่ยวกลับมา บริษัทฯ จะเอาลูกค้าที่ไหน เพราะติดเครดิตบูโรกันหมด ส่วนข้อเสนอที่จะยื่นเพิ่มเติม คือ ขอให้ถอนฟ้องและคืนรถให้ลูกหนี้ รวมทั้งรักษาเครดิตของลูกหนี้ให้เป็นสีเขียวเหมือนเดิม อาจมีการคิดดอกเบี้ยได้แต่อย่างให้สูงเกิน เพื่อเขาสามารถจ่ายได้ เพราะแต่ละครอบครัวยังมีภาระอื่นๆ ด้วย อยากให้สถาบันการเงินแต่ละแห่งยื่นมือเข้าช่วยเหลือ โดยการเจรราพูดคุยเป็นรายๆ ไป

Advertisement

รวมถึงอาจให้ในส่วนของลูกหนี้ช่วยเหลือกลับไป หากได้รับความช่วยเหลือในจำนวนที่มีการรวมตัวกันประมาณ 700 ราย อนุญาตให้ทำป้ายโฆษณาติดหลังกระจกรถจนกว่าจะผ่อนหมด แต่หากไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ ก็จะนำรถไปคืน และไม่ใช้บริการไฟแนนซ์นี้อีก ซึ่งจะบอกต่อกันไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน เพราะที่ผ่านมาเราเป็นลูกค้าที่ดีมาตลอด ครั้งนี้ไม่ได้เป็นปัญหามาจากตัวบุคคล แต่เป็นปัญหาผลกระทบจากโรคระบาด ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิด อยากให้พิจารณาช่วยเหลือในภาวะที่ลำบากจริงๆ และ เมื่อทุกอย่างดีขึ้นเราก็พร้อมกลับไปเป็นลูกค้าที่ดีเหมือนเดิม” นายณรงค์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image