จี้แก้ปัญหาปล่อยน้ำเสียลงชายหาด หอการค้าประจวบฯ หวั่นกระทบท่องเที่ยว

จากกรณี นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวว่า มีอาการคันตามลำตัว หลังจากลงเล่นน้ำทะเลและเล่นกีฬาทางน้ำ หน้าโรงแรมประจวบบีช อ่าวประจวบคีรีขันธ์ด้านทิศใต้ ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่ามีปล่อยน้ำเสียจากชุมชนลงชายหาดโดยไม่ผ่านการบำบัด มีปัญหามานานกว่า 30 ปี และเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเร่งไขโดยด่วน

วันที่ 20 สิงหาคม นายนิพนธ์ สุวรรณนาวา ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าและสภาอุตสาหกรรม จ.ประจวบคีรีขันธ์เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าเมื่อเดือนกันยายน 2562 ถึงปัจจุบันพบว่ามีน้ำเสียจากชุมชนในเขตเทศบาลไหลถูกปล่อยลงชายหาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมอย่างหนัก ทั้งที่จุดดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างสูง

ขณะที่เดิมเทศบาลเมืองประจวบฯและองค์กรจัดการน้ำเสีย( อจน.) มีการทำบันทึกความตกลงร่วมกันเพื่อบำบัดน้ำเสีย แต่ยังไม่มีความชัดเจน ดังนั้นขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งรัดให้แก้ไขโดยด่วน เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับการท่องเที่ยวและคุณภาพน้ำทะเล

“ก่อนหน้านี้อ้างว่าน้ำเสียที่ปล่อยออกมาเกิดจากฝนตกหนัก ทำให้ท่อบำบัดรวมน้ำฝนกับน้ำเสียระบายไม่ทัน ทำให้น้ำล้นลงท่อที่ชายหาด แต่ล่าสุดพบว่าไมมีฝนตกแต่มีน้ำเสียไหลลงชายหาดปกติ ขณะเดียวกันเทศบาลได้แจ้งเก็บค่าบำบัดน้ำเสีย โดยส่งหนังสือถึงผู้ประกอบการร้านอาหาร โรงแรม และบ้านเรือนประชาชนตามอัตราที่กำหนด แต่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าระบบบำบัดน้ำเสียรวมยังใช้การได้จริงหรือไม่ หลังจากกรมโยธาธิการมีการใช้งบประมาณหลายร้อยล้านบาทก่อสร้างด้านหลังวัดธรรมิการาม เมื่อปี 2541 และทราบว่าสาเหตุที่ทำให้การแก้ปัญหาน้ำเสียล่าช้าเนื่องจากเทศบาล และ อจน. ยังไม่พบแบบแปลนการก่อสร้างเดิมเพื่อทำการสำรวจแนวท่อทั้งหมด”นายนิพนธ์กล่าว

จ่าเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้แจ้งให้เทศบาลและ อจน .ชี้แจงเหตุผลการก่อสร้างระบบท่อแยก เพื่อบำบัดเสียที่บริเวณถนนเลียบชายหาดซึ่งมี 3จุดปล่อยน้ำเสีย หลังจากเทศบาลจัดสรรงบไว้ก่อสร้าง 17 ล้านบาท ซึ่งเดิมอ้างว่าน้ำสีดำไม่ใช่น้ำเสียแต่เป็นตะกอนค้างท่อ ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และขอให้ อจน.ตรวจสอบโรงสูบน้ำที่ 1 ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ว่าเครื่องจักรกลสามารใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ เพื่อสูบน้ำจากชุมชนไประบบบำบัดน้ำเสียรวม โดยไม่ปล่อยน้ำเสียลงทะเลช่วงที่ไม่มีฝนตกหนัก

Advertisement

สำหรับข้ออ้างของผู้บริหาร อจน.แจ้งว่าเพิ่งมารับมอบภารกิจหลังการก่อสร้าง โดยไม่มีแบบแปลนการวางท่อเพื่อตรวจสอบระบบนั้น ขอให้เร่งรัดดำเนินการหาแบบแปลนก่อสร้างจากกรมโยธาธิการฯโดยเร็ว

น.ส.ดวงใจ ขันธ์เครือ ผู้จัดการสำนักงานจัดการน้ำเสีย สาขาประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า น้ำเสียดังกล่าวเกิดจากช่วงวันที่ 13-15 สิงหาคม 2563 มีฝนตกหนักทำให้มีน้ำฝนปริมาณมากไหลปะปนกับน้ำเสียในท่อรวบรวมน้ำเสีย ทำให้น้ำมีตะกอนสีดำเพราะเป็นระบบท่อรวมไม่ใช่ท่อแยกไหลล้นออกจากบ่อผันน้ำฝน 3 จุด บริเวณอ่าวประจวบฯ ตามแบบการก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสียและระบบบำบัดน้ำเสียเมื่อปี 2541 ที่ผ่านมา อจน.และเทศบาลเมืองประจวบฯ ได้ทำข้อตกลงการให้บริการรับบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียรวมเทศบาลเมืองประจวบฯ ตั้งแต่ปี 2554 ปัจจุบันท่อรวบรวมน้ำเสียหลักบริเวณ อบจ.ประจวบฯ มีทรายเกือบเต็มท่อ ทำให้ยากต่อการสูบน้ำเสียเข้าระบบได้ตามปกติ

ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดจ้างลอกตะกอนในแนวท่อรวบรวมน้ำเสียหลักบริเวณดังกล่าวเพื่อให้สามารถสูบน้ำเสียได้เต็มประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน เทศบาลมีแผนดำเนินการลอกตะกอนในท่อรวบรวมน้ำเสียในปีงบประมาณ 2563 และเทศบาลมีแผนก่อสร้างสถานีสูบน้ำเสียเพิ่มเติมจำนวน 2 จุดในปีงบประมาณ 2564 ที่บ่อผันน้ำฝนหน้าโรงแรมหาดทองและหน้าโรงแรมประจวบบีช จะช่วยป้องกันน้ำท่วมและป้องกันน้ำตะกอนสีดำไหลลงทะเล

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image