เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม เวลา 20.00 น. อาสากู้ภัยร่วมกตัญญู ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุบริเวณริมถนนสายนครนายก – รังสิต ฝั่งขาเข้ารังสิต ช่วงยูเทิร์นศาลจังหวัดนครนายก ตำบลบางอ้อ อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในซากรถกระบะ
จากนั้นอาสากู้ภัยจึงได้นำอุปกรณ์ตัดถ่างมายังที่เกิดเหตุ พบรถพ่วงหมายเลขทะเบียน 72-2589 สระบุรี อยู่ในลักษณะกำลังยูเทิร์น บริเวณซุ้มล้อหลังด้านซ้ายมีรอยถูกชน ใกล้กัน พบรถกระบะวีโก้ สีเทา หมายเลขทะเบียน กง 2539 นครนายก สภาพด้านหน้าขวาพังเสียหาย ภายในห้องโดยสายพบผู้บาดเจ็บไม่ได้สติ ทราบชื่อ นายสามารถ กิตติรักน์ อายุ 60 ปี เป็นครูสอนกู้ภัยอบต.ทรายมูล อำเภอองครักษ์ โดยอาสากู้ภัยได้ใช้อุปกรณ์ตัดถ่างตัดประตู และงัดคอนโซลรถให้ถ่างออกจากกัน และรีบนำตัวนายสามารถออกมา พบว่าแขนและขาข้างขามีลักษณะผิดรูป และไม่ได้สติ จึงเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลบ้านนา
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบภายในรถกระบะของนายสามารถ พบอุปกรณ์กู้ภัยโรยตัวและอุปกรณ์ฝึกสอนจำนวนมากกระจัดกระจายในรถและบนท้องถนน
จากนั้นได้สอบถามเพื่อนร่วมงานของนายสามารถที่ไปฝึกสอนด้วยกัน หลังทราบข่าว ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ และเผยว่า เช้าวันนี้นายสามารถและพวกตนได้เดินทางมาจาก อบต.ทรายมูล อำเภอองครักษ์ ไปช่วยฝึกสอนกู้ภัยให้กับ กู้ภัย อบต.หนองแสง อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ตามโครงการจิตอาสา จนกระทั้งสอนเสร็จก็ได้แยกย้ายกลับ โดยนายสามารถกำลังนำอุปกรณ์มาเก็บที่ อบต.ทรายมูล และจะกลับบ้าน แต่มาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน
ด้านนายเวชยันต์ อนุพันธ์ อายุ 27 ปี คนขับรถพ่วง ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้บอกว่า ตนขับรถเส้นนี้เป็นประจำ โดยมาจากอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เพื่อเดินทางไปส่งปูนที่จังหวัดระยอง โดยปกติจะเลี้ยวรถตรงสี่แยกบางอ้อ แต่ตอนนี้ได้ปิดการจราจรเพื่อทำถนน ตนและรถคันอื่นๆ ต้องขับเลยมายูเทิร์นบริเวณหน้าศาลจังหวัดนครนายก ซึ่งขณะที่ตนกำลังจะยูเทิร์นนั้น ได้เห็นรถของนายสามารถอยู่ระยะไกล แต่พอกำลังยูเทิร์นและออกมาได้มากแล้ว รู้สึกว่าเหมือนยางหลังระเบิด จึงลงมาดู พบว่ารถกระบะของนายสามารถชนเข้าที่ล้อด้านซ้ายตน
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านนา เจ้าของพื้นที่ ได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมสอบปากคำเบื้องต้นคนขับรถพ่วง ก่อนเชิญตัวไปให้ปากคำเพิ่มเติมี ที่ สภ.บ้านนา ซึ่งหลังจากที่นายสามารถได้เข้ารับการรักษาตัวและมีสติ สามารถที่จะให้ปากคำเพิ่มเติมได้ ก็จะเชิญมาให้ปากคำในลำดับต่อไป
