สืบเนื่องกรณี น.ส.อัมพรพรรณ เลไทสงค์ อายุ 35 ปี ชาว จ.สุรินทร์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ต.พิเชษฐ์ ชูโฉมงาม พนักงานสอบสวน สภ.สนม อ.สนม จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 14 ส.ค.63 ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่านายสามารถ กิริยา ผู้ใหญ่บ้านศรีสำโรง หมู่ 13 ต.แคน อ.สนม ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา กระทำอนาจารกับร่างกาย ด้วยการกัดดูดจนมีรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย ทั้งบริเวณหน้าอก แขน ไหล่ แผ่นหลัง และแก้ม หลังจากไปร่วมนั่งดื่มเบียร์ด้วยกันในร้านอาหารแห่งหนึ่ง บริเวณตรงข้ามบ้านของผู้ใหญ่บ้านศรีสำโรง หมู่ 13
ต่อมา น.ส.อัมพรพรรณได้รับข้อความทางแชต ระบุว่า “ยู่ไส หงกูหมา แจ้งความฮาวนะ สิเอาให้ตาย 15 ปีบ่หลายเดอ” รู้สึกกลัว จึงได้มาปรึกษาพ่อและให้พ่อพาไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรสนม เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุให้กับผู้หญิงอื่นๆ อีก โดยมี พ.ต.ต.พิเชษฐ์ ชูโฉมงาม พนักงานสอบสวน รับเรื่องไว้และให้ตนเองไปหาหมอเพื่อตรวจที่โรงพยาบาล ซึ่งได้แจ้งความตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.63 แต่ยังไม่มีความคืบหน้า และยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากตำรวจ ผู้ใหญ่บ้านก็ยังลอยนวล ไปพูดให้ตนเสียหายนั้น
ย้อนอ่าน : สาวสุรินทร์ร้องทุกข์ ถูกผู้ใหญ่บ้านลวนลามกัดช้ำทั่วตัวหวังขืนใจขณะเมาหลับ
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 สิงหาคม พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ชูโฉมงาม พนักงานสอบสวน สภ.สนม เจ้าของคดี ได้เรียกผู้เสียหายเข้าไปสอบสวนและเอาหลักฐาน ก่อนที่เวลา 11.40 น. นางสาววันเพ็ญ หาญเสมอ นายอำเภอสนม ได้เชิญผู้เสียหายเข้าพบเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และจะเรียกตัวผู้ใหญ่บ้านที่ถูกกล่าวหามาสอบสวนอีกครั้ง พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ามีความผิดจริงก็จะลงโทษทางวินัยต่อไป
ต่อมา ช่วงเวลา 12.00 น. ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวได้แสดงตัว เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาที่อีกฝ่ายแจ้งความไว้ ด้วยสีหน้าตึงเครียด ซึ่งตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด เนื่องจากต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบเสียก่อน โดยเบื้องต้น ผู้ถูกกล่าวหาได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมขอสู้คดีในชั้นศาลต่อไป ก่อนจะออกจากห้องสอบสวนเวลาประมาณ 13.00 น. และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสั้นๆ ว่า มีสื่อบางสำนักนำเสนอข่าวเกินความจริง โจมตีตนเองฝ่ายเดียว ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นตนรู้ดี เขารู้ดี ตนขอสู้คดี เอาความถูกต้องไปวัดกันที่ศาลต่อไป
นางสาววันเพ็ญกล่าวว่า ตนเพิ่งจะทราบข่าวเมื่อช่วงค่ำวานนี้ และทางโรงพักก็ได้รายงานข้อมูลให้ทราบ ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชา วันนี้เป็นวันหยุด ตนได้สั่งการให้ปลัดอำเภอที่รับผิดชอบงานปกครองดูแลในเรื่องวินัยกำนันผู้ใหญ่บ้าน สอบสวนข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งปกติจะตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงก่อน ถ้ามีมูลที่จะสอบวินัยต้องเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการ จะเสนอผู้ว่าตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ถ้าถึงขั้นลงโทษทางวินัย แต่ ณ วันนี้เรายังไม่ได้ตั้งกรรมการสอบ แต่ได้มอบหมายให้ปลัดอำเภอที่รับผิดชอบสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้น
นางสาววันเพ็ญกล่าวว่า วันนี้ได้เรียกน้องผู้เสียหายมาสอบก่อน ถ้าเห็นว่ามีมูล มีหลักฐานเชื่อถือได้ว่าผู้ใหญ่บ้านทำผิดจริง ขั้นตอนต่อไปจะเสนอตั้งกรรมการสอบวินัยกับผู้ว่าต่อไป หากสมมุติว่าผิดวินัยร้ายแรงก็ถูกปลดออกไล่ออก ซึ่งกำนันผู้ใหญ่บ้านต้องรักษาวินัยเหมือนข้าราชการพลเรือนทุกอย่าง ทางผู้ว่าฯ ทางอธิบดีกรมการปกครองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สอบถามผู้ใต้บังคับบัญชามาทุกระดับ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งทางชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.สนม ก็ไม่สบายใจ หากมีความผิดจริงก็ไม่มีการปกป้อง เขาก็กังวลในภาพลักษณ์ของชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านเช่นกัน ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า เราจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ขณะที่ น.ส.อัมพรพรรณกล่าวว่า ผู้ใหญ่บ้านมีศักดิ์เป็นอา กินด้วยกันมาตลอด จึงรู้นิสัยลึกๆ และรู้สึกกลัว และเขาก็ไม่ยอมรับในสิ่งที่เขาทำด้วย แต่ตนพูดความจริง ตนก็ไม่กลัว ขอความเป็นธรรมให้กับตนเองด้วย
