ชาวประมงพื้นบ้าน 2 อำเภอ ร้องระงับรื้อขนำคอกหอยอ่าวบ้านดอน ขอใช้ท่าฉางโมเดลคนเลี้ยงกับชาวบ้านพึ่งพากัน
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่อาคารอเนกประสงค์ ที่ว่าการ อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ชาวประมงพื้นบ้านและผู้ประกอบ การเลี้ยงหอยแครง ใน อ.ท่าฉาง ประมาณ 120 คน มารับฟังการชี้แจงข้อกฎหมายการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในอ่าวบ้านดอน จากเจ้าหน้าที่ ศรชล.จังหวัด, ประมงจังหวัด, เจ้าท่าภูมิภาค และสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 โดยชาวบ้านขอให้ระงับคำสั่งรื้อขนำคอกหอยและรับฟังคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่จังหวัดตั้งขึ้นและแยกแก้ไขปัญหาเป็นรายอำเภอ เนื่องจากแต่ละอำเภอมีปัญหาไม่เหมือนกันและให้ขยายพื้นที่เลี้ยงหอยให้เหมาะกับประชากรที่เพิ่มขึ้นโดยสนับสนุนแนวทางท่าฉางโมเดลที่ผู้เลี้ยงหอยและชาวประมงพื้นบ้านอยู่ด้วยกันได้เพื่อพัฒนาคุณภาพการเลี้ยงหอย รวมทั้งให้ประชาชนมีส่วนร่วมกำหนดการเปลี่ยนแปลงในฐานะเจ้าของพื้นที่
นายเผด็จ แซ่ลิ้ม รองประธานฝ่ายพัฒนาโครงการท่าฉางโมเดล ตัวแทนภาคประชาชน กล่าวว่า การรื้อถอนขนำและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่อาจใช้เเผนที่เก่าเมื่อปี 2522 ซึ่งในปี 2558 ทางจ.สุราษฎร์ธานี และอ.ท่าฉาง ได้ทำโครงการแก้ปัญหาประมงพื้นบ้าน พร้อมจัดสรรพื้นที่เพาะเลี้ยงหอยห่างจากฝั่ง 1,000 เมตร ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขนำในพื้นที่โดยประมงพื้นบ้านกับผู้เลี้ยงฟาร์มหอยในท้องถิ่นมีความสัมพันธ์เกื้อหนุนกัน เพราะเปิดให้ประมงพื้นบ้านเข้ามาจับปลาได้ เนื่องจากปลา กุ้ง และปูบางชนิดเข้ามาหากินหอยแครงและเพรียงที่อยู่ในบริเวณคอกหอย รวมทั้งได้ทำความสะอาดคอกหอยที่มีการช้อนขยะจากฝั่งช่วยให้ทะเลสะอาด
วันเดียวกันคณะเจ้าหน้าที่ได้ไปชี้แจงและรับฟังปัญหาจากชาวประมงพื้นบ้าน และผู้ประกอบการเลี้ยงหอยแครง ในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ ประมาณ 150 คน ซึ่งชาวบ้านเรียกร้องให้ระงับคำสั่งการรื้อขนำ โดยให้คำนึงถึงวิถีชีวิต และเศรษฐกิจของจังหวัดที่ได้มาจากการเลี้ยงหอย โดยเฉพาะหอยนางรมในพื้นที่
นาวาเอกวศากร สุนทรนันท รอง ผอ.ศรชล.จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ข้อเรียกร้องของชาวบ้าน จะถูกนำไปรายงานต่อคณะทำงานเพื่อร่วมกันหาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน
