โคราชฝนทิ้งช่วง สระนํ้าผลิตประปาเริ่มแห้ง ชาวบ้านหวั่นปลาตายเร่งจับปลาไปประกอบอาหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ว่า สถานการณ์ฝนทิ้งช่วง ส่งผลกระทบกับแหล่งน้ำต้นทุนหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยเฉพาะปริมาณน้ำภายในสระน้ำบ้านซาด หมู่ที่ 6 ตำบลชีวาน อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นสระน้ำใช้ผลิตน้ำประปาแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน 350หลังคาเรือน พบว่า ปริมาณน้ำเริ่มแห้งลงอย่างรวดเร็ว จนเห็นสันดอนดินทรายโผล่ขึ้นมาในสระน้ำชาวบ้านหวั่นว่า ปลาที่เลี้ยงไว้ในสระน้ำจะตาย จึงช่วยกันทอดแหจับปลาในสระน้ำที่กำลังจะแห้ง นำไปประกอบอาหารรับประทาน

 

นายหมั่น บุญคง อายุ 70 ปี ชาวบ้านในตำบลชีวาน บอกว่า ภัยแล้งมาเร็วกว่าทุกปี ฝนทิ้งช่วงยาวนานและปริมาณน้ำฝนตกลงมาน้อย ทำให้ไม่มีน้ำไหลเข้าสระเลย ส่งผลให้ปริมาณน้ำกักเก็บไว้ใช้ผลิตน้ำประปาลดลงอย่างรวดเร็ว หากไม่มีฝนตกลงมาเติมแหล่งน้ำภายใน 1-2 เดือนนี้ ชาวบ้านต้องขาดแคลนน้ำใช้อุปโภค-บริโภคอย่างแน่นอน

Advertisement

ขณะเดียวกันนายเกียรติศักดิ์ หนูแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 เปิดเผยสถานการณ์น้ำกักเก็บในภาพรวมของจังหวัดนครราชสีมาล่าสุด ว่า 4 อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำลำตะคอง สภาพน้ำปัจจุบัน มีปริมาตรน้ำเหลืออยู่ที่ 94.16 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 29.94 % แต่เป็นน้ำใช้การได้เพียง 71.44 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 24.49 % เท่านั้น ขณะที่อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง มีปริมาตรน้ำเหลือน้อยแค่ 43.49 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 28.06 % และเป็นน้ำใช้การได้เพียง 42.77 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 27.72 % เท่านั้น ส่วนอ่างเก็บน้ำมูลบน ปริมาตรน้ำเหลืออยู่ที่ 26.58 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 18.85% แต่เป็นน้ำใช้การได้เพียง 19.58 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 14.61 % และอ่างเก็บน้ำลำแชะ มีปริมาตรน้ำเหลือ 49.99 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 18.18 % แต่เป็นน้ำใช้การได้เพียง 42.99 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 20.85 % เท่านั้น สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 23 อ่างฯ เหลือน้ำรวม 77.14 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 23.29 % แต่เป็นน้ำใช้การได้ 52.13 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 17.03 % ทำให้ปริมาตรน้ำภาพรวม 4 อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 23 อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง รวมเหลือน้ำ 291.37 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 23.95 % และเป็นน้ำใช้การได้เพียง 228.92 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 19.83 % เท่านั้น

 

Advertisement

ในขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน โดยพายุระดับ 5 (ไต้ฝุ่น) “ไมสัก” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ กำลังเคลื่อนตัวขึ้นไปทางทิศเหนือ คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนตัวไปยังประเทศเกาหลีในช่วงวันที่ 2-3 กันยายน 2563 แต่พายุนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ส่วนลักษณะอากาศในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พยากรณ์ว่า เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา ยังมีน้ำกักเก็บอยู่ในเกณฑ์น้อย จำเป็นต้องบริหารจัดการน้ำอย่างรัดกุม เพื่อสงวนน้ำไว้ใช้ให้เพียงพอตลอดฤดูแล้ง และคาดหวังให้มีฝนตกลงมามากขึ้น เพื่อเติมน้ำเข้าอ่างเก็บกักน้ำของในพื้นที่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image