ผบ.ทบ.กำชับคุมชายแดนแม่สายเข้ม เพิ่มความถี่ลาดตระเวนหลังโควิด-19 ระบาดเมียนมา

ผบ.ทบ.กำชับคุมชายแดนแม่สายเข้ม เพิ่มความถี่ลาดตระเวนหลังโควิด-19 ระบาดเมียนมา

เมื่อวันที่ 4 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแม้ว่าผลการตรวจของชายต้องสงสัยจำนวน 3 คนในเมืองเชียงตุง ประเทศเมียนมา ที่อยู่ห่างจากชายแดนอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ประมาณ 200 กิโลเมตร ซึ่้งมีอาการป่วยภายหลังเดินทางไปอบบรมการทำข่าวออนไลน์ที่ย่างกุ้ง เมืองหลวงของประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 2 กันยายนจะไม่พบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงชายแดนเชียงราย โดยเฉพาะทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 กองกำลัง ยังคงมีการวางกำลังตามจุดต่างและเพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อป้องกันไม่ให้มีชาวเมียนมาลักลอบข้ามแม่น้ำสายเข้ามายังพื้นที่ประเทศไทยเพื่อหางานทำหลังในหมู่บ้านประสบภาวะเศรษฐกิจเนื่องจากผลกระทบทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

โดยล่าสุดสุดเมื่อช่วงบายของวานนี้( 3 ก.ย.) ทางพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มายังพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย บริเวณท่าข้ามกระหล่ำ และท่าข้ามส้มโอ อ.แม่สาย จ.ฌชียงราย เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์ ในพื้นที่ อ.แม่สาย จังหวัดเชียงราย และมาตราการ ของ กกล.ผาเมือง ในการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าว และผู้หลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฏหมาย เพื่อป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) โดยมี พ.อ.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ รอง ผบ.กกล.ผาเมือง พร้อมด้วย พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 ให้การต้อนรับ

โดยการเดินทางมาในครั้งนี้ เนื่องจากนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่มีการแพร่ระบาดในเมียนมาที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และกังวลที่กรณีแรงงานต่างด้าว และผู้หลบหนีเข้าเมืองจะนำเข้ามาแพร่ระบาดในพื้นที่อำเภอแม่สาย และการระบาดภายในประเทศ

Advertisement

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้ กองกำลังผาเมือง ดำเนินการ เพิ่มมาตรการในการสกัดกั้นด้านแรงงานต่างด้าว และผู้หลบหนีเข้าเมืองอย่างเข้มงวด ติดตั้งไฟส่องสว่างแผงโซลาร์เซลล์ กล้อง CCTV และวางรั้วลวดหนามเพิ่มเติม รวมไปถึงประสานส่วนราชการในพื้นที่ดำเนินในารจัดทำแผนก่อสร้างกำแพง ตามแนวลำน้ำสาย น้ำรวก เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย จัดทำพนังกั้นน้ำเพื่อป้องกันน้ำกัดเซาะแนวตลิ่ง กำจัดเศษวัชพืชและเศษขยะที่กีดขวางประตูน้ำคลองส่งน้ำ เพื่อให้น้ำไหลเข้าพื้นที่เกษตรได้สะดวก โดยราษฎรไม่ต้องนำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำ และทำให้ไม่กีดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตามชายแดน

ทั้งนี้ในห้วงระหว่างการแรพ่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมาถึงปัจจุบันเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยอาศัยแม่น้ำสายที่ตื้นเขินในการเดินทางเข้าประเทศแล้วจำนวน 62 ครั้ง ได้ผู้ต้องหาจำนวน 193 คน เป็นบบุคคลสัญชาติไทย 31 คน เมียนมา 158 คน ลาว 12 คน และจีนอีก 4 คน และยังมีแนวโน้มและความพยายามในการเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ผ่านระบบการคัดกรองของเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image