น้ำตาอาบหน้า! แม่ร่ำไห้ลูกชายขโมยเอทีเอ็มไปกดเกลี้ยง เหลือแค่ 53 บาท ไม่มีเงินกินข้าว

น้ำตาอาบหน้า! แม่ร่ำไห้ลูกชายขโมยเอทีเอ็มไปกดเกลี้ยง เหลือแค่ 53 บาท ไม่มีเงินกินข้าว

เมื่อวันที่ 11 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.หมากเขียบ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นางรัตนา นิยม อายุ 63 ปี ได้ร่ำไห้เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวว่า ถูกลูกชายคนเล็กแอบลักเอาบัตรเอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซี ศรีสะเกษ ไปเบิกเอาเงินที่ตนเองและเงินของนายเฉวียน ดอกแก้ว อายุ 75 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของตน และเป็นลุงของลูกชายคนเล็กของตนที่สะสมเงินมาชั่วชีวิต เพื่อเก็บไว้ให้หลานชายอายุ 10 ขวบ ไว้เรียนหนังสือ ถูกแอบเบิกเงินเอาไปหมดเกลี้ยงธนาคาร ทำให้ตนและครอบครัวได้รับความลำบากมาก ไม่มีเงินที่จะซื้อข้าวกิน

นางรัตนา นิยม อายุ 63 ปี เล่าด้วยน้ำตาอาบแก้มว่า ตนได้เก็บเงินจากการประกันชีวิตของลูกชายคนโตที่เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ ได้เงินประกันมาฝากธนาคารไว้ 130,000 บาท ส่วนนายเฉวียน ซึ่งเป็นพี่ชายของตนได้ขายควายไปจำนวน 25 ตัว ได้เงินฝากธนาคารไว้จำนวน 300,000 บาท ต่อมาลูกชายคนเล็กของตนที่พาภรรยามาอยู่ด้วยที่บ้านและมีนิสัยชอบเล่นการพนัน ได้มาหลอกตนว่า ขอเอาบัตรเอทีเอ็มทั้งของตนและของนายเฉวียนซึ่งเป็นลุงไปเช็กเงินที่ธนาคารว่า เงินช่วยเหลือผู้ที่ได้รับกระทบโควิด-19 เข้าบัญชีหรือยัง แต่ปรากฏว่าลูกชายของตนแอบเอาบัตรเอทีเอ็มไปเบิกเอาเงินจากบัญชีของนายเฉวียนออกมาใช้อย่างต่อเนื่อง จากเงินที่มีอยู่ 300,000 บาท เหลือเงินในบัญชีเพียง 53 บาท ส่วนบัญชีธนาคารของตน จากยอดเงินในบัญชี 130,000 บาท ถูกเบิกออกมาจนเหลือเงินในบัญชีธนาคารเพียง 15,684 บาท ทำให้ขณะนี้ตนเดือดร้อนมาก เพราะว่าเงินทั้งหมดเป็นเงินที่ตนและนายเฉวียนเก็บสะสมเอาไว้ทั้งชีวิตเพื่อที่จะเอาไว้ส่งหลานชายอายุ 10 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของลูกชายคนโตของตนไว้เรียนหนังสือ

นางรัตนากล่าวต่อไปว่า ตนได้สอบถามและคาดคั้นเรื่องนี้จากลูกชายคนเล็กของตนแล้ว ได้ยอมรับกับตนว่า ได้เอาเงินไปจริง และได้พาภรรยาหนีไปอยู่ที่บ้านภรรยาที่ จ.นครราชสีมา ตนสงสารนายเฉวียนซึ่งเป็นลุงของลูกชายตนเป็นอย่างมาก เพราะว่านายเฉวียนอายุ 75 ปีแล้ว คงไม่มีปัญญาที่จะไปหาเงินที่ใดได้อีก ตนจึงขอฝากวิงวอนไปหาลูกชายคนเล็กว่า ขอให้นำเอาเงินมาคืนลุงเฉวียนด้วย เพราะสงสารลุงที่ขายวัวควายไว้ให้หลานชายเรียนหนังสือ ส่วนเงินที่ตนสะสมมาชั่วชีวิตไม่ต้องเอามาคืนก็ได้ เพียงขอให้เอาเงินมาคืนให้ลุงเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ ตนและนายเฉวียนได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมือง ศรีสะเกษ เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับลูกชายคนเล็กของตนแล้ว ตนยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับลูกชายจนถึงที่สุด จนกว่าจะนำเอาเงินมาคืนให้กับนายเฉวียนจนครบถ้วน และขอฝากจากผู้ใจบุญโปรดให้ความช่วยเหลือตนและครอบครัวด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image