ชาวบ้านที่อยู่ใกล้กังหันลมพลังงานไฟฟ้าจำนวน 12 หลัง ในอำเภอระโนด กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก ต่างหวาดผวา เกรงจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยในจุดอื่นนั้นไม่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้เคียงจึงไม่เคยมีผลกระทบ เรียกร้องให้หาแนวทางป้องกันและบรรเทาปัญหาระยะยาว
วันที่ 16 ก.ย. นายสุนทร แสงสุวรรณ ตัวแทนชาวบ้านซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเรือนจำนวน 12 หลังคาเรือน ในพื้นที่หมู่ 4 ตำบลท่าบอน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ได้นำชมสภาพความเสียหายของบ้านเรือนที่เสียหายสะสมมานานหลายปี โดยชาวบ้านอยู่ในสภาพที่มีความกังวล หลังบ้านเรือนมีสภาพแตกร้าว ผนังแยกออกจากกัน พื้นบ้านแตก ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดต่อเนื่อง 2-5 ปี แม้ชาวบ้านจะมองว่าเป็นเพราะกังหันลมผลิตพลังงานไฟฟ้าของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เป็นเพียงสิ่งแปลกปลอมเดียวที่เข้ามาทำการติดตั้งอยู่ใกล้เคียงในระยะ 100-300 เมตร ทำให้เกิดปัญหาขึ้นต่อเนื่องและกังวลว่าปัญหาจะเดินไม่สิ้นสุด บ้านเรือนบางหลัง อยู่ๆ ก้อนอิฐ ก้อนปูน ตกลงมา จนถึงกับเป็นลม ด้วยความกังวล แต่แม้จะแจ้งไปยังผู้ประกอบการเจ้าของกังหันลมแต่ปัญหาก็ไม่เคยได้รับการแก้ไข โดยต้องการให้ผู้ประกอบการเข้ามารับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมวางแนวทางในการป้องกันปัญหาในระยะยาว โดยได้ร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือดูแลอย่างเร่งด่วน
นายรุ่งโรจน์ และสุบ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ได้ร่วมกับหลายหน่วยงานลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาแล้ว เบื้องต้นคงจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกันหลายหน่วยก่อนจะฟันธงว่าสาเหตุมาจากเรื่องใด แต่เรื่องเร่งรีบคือการสำรวจและประเมินความเสียหายของบ้านเรือนแต่ละหลัง เพื่อดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซม ซึ่งจะดำเนินการในอีกประมาณ 1 เดือน
สำหรับโครงการโรงผลิตไฟฟ้าพลังงานลม เป็นของบริษัท อีเอ วินด์ หาดกังหัน 3 จำกัด เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ให้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มาแล้ว 3 ปี โดยโครงการดังกล่าว ครอบคลุมพื้นที่ด้วยกัน 3 อำเภอ 2 จังหวัด ได้แก่ อ.ปากพนัง อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช และ อ.ระโนด จ.สงขลา มีกังหันลมติดตั้งรวม 70 ตัว
