ตำรวจมีปากเสียงกับวัยรุ่นขณะระงับเหตุ สุดท้ายเจ้าตัวกลับมาขอบคุณถ้าไม่ห้ามคงติดคุกแล้ว

เปิดคลิปตำรวจมีปากเสียงกับวัยรุ่นขณะเข้าระงับเหตุวัยรุ่นทะเลาะกัน ล่าสุดเคลียร์แล้ว วัยรุ่นยอมรับอารมณ์ร้อนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หากตำรวจไม่ระงับเหตุคงบานปลายติดคุกไปแล้ว

วันที่ 16 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ปรากฏคลิปภาพการมีปากเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไประงับเหตุกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะกันบริเวณซอยเพชรสมุทร 2 เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 16 ส.ค. ซึ่งเพิ่งมีการเผยแพร่สู่โลกออนไลน์ ทำให้เป็นที่วิพากวิจารณ์ถึงความเหมาะสมนั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุตลาดท่าน้ำซอยวัดเพชรสมุทร 2 เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม พบผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อเนื่องจากเกรงความปลอดภัย บอกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่ทราบว่าวัยรุ่น 2 กลุ่มมีปัญหาอะไรกัน ขณะนั้นได้มีวัยรุ่นคนหนึ่งจอดรถจักรยานยนต์มาล็อกคอลูกค้าที่นั่งในร้าน ซึ่งตนได้พูดคุยและขอว่าอย่าทะเลาะกัน

วัยรุ่นคนดังกล่าวจึงล็อกคอแล้วลากน้องที่นั่งในร้านออกไปทางเข้าวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ตนเห็นสถานการณ์ไม่ดี จึงรีบวิ่งไปแจ้งตำรวจที่ป้อมสายตรวจบริเวณท่าน้ำ เจ้าหน้าที่จึงรีบมาระงับเหตุอย่างรวดเร็ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไมได้ทำอะไรมากไปกว่าไปบีบแตรห้ามปราบเฉยๆ แต่วัยรุ่นก็ไม่หยุด เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้เสียงดังในการให้วัยรุ่นแยกออกจากกัน แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรวัยรุ่นคนดังกล่าวต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไป

ซึ่งเรื่องนี้ตนมองว่าที่ตำรวจทำก็ถูกต้องแล้ว หากตำรวจไม่ปฏิบัติหน้าที่ประชาชนจะอยู่สงบสุขได้อย่างไร ตำรวจก็แค่เสียงดังเพื่อห้ามให้เด็กวัยรุ่นทะเลาะกัน เนื่องจากในจังหวะนั้นหากพูดค่อยๆ เบาๆ ไพเราะลื่นหู ใครจะฟัง วัยรุ่นก็คงไม่แยกกัน เพราะเดี๋ยวนี้วัยรุ่นค่อยข้างจะรุนแรง ก็อยากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชนสมกับเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎรต่อไป

Advertisement

ต่อมานายก้อง ไม่เปิดเผยชื่อนามสกุลจริง อายุ 19 ปี ผู้ก่อเหตุและถ่ายคลิปวิดีโอ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สุเจตต์ นาคมณี รองผู้กำกับการสอบสวน และ พ.ต.ท.สงัด เบ้าแบบดี รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองสมุทรสงคราม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจที่ไม่ได้เป็นคนเผยแพร่คลิป และขอโทษเจ้าหน้าที่ว่าสิ่งที่ทำลงไปวันนี้เป็นอารมณ์ชั่ววูบล้วนๆ โดยนายก้องได้ยกมือไหว้ขอโทษ ส.ต.ท.ธนเดช เทียนสว่าง ผบ.หมู่ป้องกันละปราบปราม ให้อภัยและเข้าใจว่าในวันเกิดเหตุสถานการณ์พาไป ซึ่งตนยืนยันตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ท่ามกลางบรรยากาศผ่อนคลาย

นายก้องกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนเลิกรากับแฟนเก่าไป และรู้ข่าวว่าแฟนไปเที่ยวกับผู้ชายใหม่จึงเกิดโมโห จึงตามหากระทั่งมาเจอที่ร้านเกิดเหตุ จึงกระชากคอน้องวัย 14 ปี ออกจากจากร้านและไปเคลียร์กันที่ปากทางเข้าวัดเพชรสมุทรวรวิหาร เมื่อตำรวจเข้ามาระงับเหตุ ตนรู้สึกโมโหชั่ววูบจึงท้าทายยั่วยุเจ้าหน้าที่ พร้อมกับถ่ายคลิปไว้ และได้ส่งคลิปให้เพื่อนดู เมื่อมีสติจึงลบคลิป และขอให้เพื่อนลบคลิปด้วย แต่เพื่อนกลับส่งไปแชร์ในโลกออนไลน์ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ซึ่งเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ มาวันนี้ที่ตนอารมณ์เย็นและมีสติ จึงทราบว่าสิ่งที่ทำลงไปไม่ถูกต้อง และหากย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ทำแบบนี้แน่นอน

พ.ต.ท.สงัด เบ้าแบบดี รองผู้กำกับหารป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองสมุทรสงคราม กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2563 แต่จู่ๆ มีการลงเผยแพร่ทางโลกออนไลน์ในตอนนี้เพื่อหวังผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง กรณีนี้ถือว่านายก้องเป็นเหยื่อของโลกโซเชียล ซึ่งทำลงไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ แต่เมื่อคิดได้ก็สายเกินไป จึงฝากเตือนวัยรุ่นทั้งหลายขอให้มีสติทำอะไรให้คิดเสียก่อน อย่าไปวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นให้เกิดความเสียหายจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image