นายจ้าง-ญาติ เหยื่อถูกเผาในรถ มั่นใจถูกฆาตกรรมไม่ใช่อุบัติเหตุ ตร.เร่งสืบปากคำคลี่คลายคดี

นายจ้าง-ญาติ เหยื่อถูกเผาในรถ มั่นใจถูกฆาตกรรมไม่ใช่อุบัติเหตุ ตร.เร่งสืบปากคำคลี่คลายคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า คดีมีผู้พบศพนายสมาน แฟสันเทียะ อายุ 59 ปี ถูกไฟครอกเสียชีวิตในสภาพไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโก อยู่ในรถ 6 ล้อบรรทุกปั้มลมเจาะน้ำบาดาล ที่บ้านวังไผ่ หมู่ 12 ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เหตุเกิดเมื่อช่วงก่อนรุ่งเช้า วันที่ 15 กันยายน 2563 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบมีข้อพิรุธหลายอย่าง อาทิ มีรอยเคลื่อนย้ายรถออกจากจุดจอดไปประมาณ 10 เมตร ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่บริเวณเบาะคนขับ ทั้งที่ผู้เสียชีวิตขับรถไม่เป็น และบริเวณศีรษะของผู้เสียชีวิต มีรอยกะโหลกยุบ เหมือนถูกของแข็งทุบทำร้าย เป็นต้น ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตคาดว่าจะถูกฆาตกรรมนั้น

ล่าสุด วันนี้ (16 กันยายน 2563) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่ สภ.วังน้ำเขียว พบว่าพนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเขียว ได้เรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าของรถบรรทุก 6 ล้อ, เจ้าของที่ดินที่เกิดเหตุ, ญาติผู้เสียชีวิต และคนงานรถขุดเจาะน้ำบาดาล เป็นต้น มาสอบปากคำอย่างเคร่งเครียด ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่จุดเกิดเหตุ พบว่าอยู่ริมถนนชนบททางเข้าหมู่บ้านวังไผ่ หมู่ 12 ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว ซึ่งเป็นพื้นที่ท้ายหมู่บ้าน มีแทงค์น้ำบาดาลของหมู่บ้านตั้งอยู่ ใกล้กันมีบ้านร้างลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ที่ไม่มีผู้อยู่อาศัย ซึ่งนายสมานฯ ได้ใช้เป็นสถานที่นอนเฝ้ารถขุดเจาะน้ำบาดาล โดยมีรถจอดอยู่ 2 คัน คือ รถขุดเจาะน้ำบาดาล และรถ 6 ล้อบรรทุกปั๊มลมที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งมีสายยางเชื่อมต่อเข้าหากัน

จากการสอบถามนายพงศิลป์ สายแสง อายุ 36 ปี ผู้ประกอบการขุดเจาะน้ำบาดาล กล่าวว่า ตนเองได้รับการว่าจ้างจากผู้นำชุมชน ซึ่งมีงบประมาณของกองทุนหมู่บ้านให้ 200,000 บาท ให้มาขุดเจาะน้ำบาดาลบริเวณนี้ เพื่อใช้สำหรับแก้ปัญหาภัยแล้งให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ โดยได้นำรถมาดำเนินการขุดเจาะเมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากช่วงเย็นคนงานกลับบ้านหมด พ่อของตนก็ได้ไปรับนายสมานฯ ให้มานอนเฝ้ารถที่จุดนี้ โดยแกมีหน้าที่นอนเฝ้ารถอย่างเดียว ไม่ได้มีหน้าที่ในการทำงานขุดเจาะน้ำบาดาล เพราะก่อนหน้านี้เคยประสบอุบัติเหตุสมองไม่ค่อยสมประกอบ ต่อมารุ่งเช้าจึงทราบว่ารถถูกไฟไหม้ โดยมีร่างของนายสมานฯ ถูกไฟครอกอยู่บริเวณเบาะคนขับ และมีข้อผิดสังเกตว่ารถได้ถูกเคลื่อนออกมาจากบริเวณหมอนรองล้อประมาณ 6-7 เมตร ทั้งที่ไม่มีกุญแจรถอยู่ อีกอย่างนายสมานฯ ก็ขับรถไม่เป็นด้วย จึงสันนิษฐานว่าไม่ใช่อุบัติเหตุแน่นอน แต่อาจจะมีคนร้ายพยายามมาขโมยรถ โดยต่อสายตรงขับรถออกมา แล้วไม่สามารถขับไปได้เพราะติดสายลมที่เชื่อมต่อเข้ากับรถขุดเจาะน้ำบาดาล จึงได้เผาทำลายรถพร้อมด้วยนายสมานฯ เพราะนายสมานไม่เคยมีเรื่องกับใคร และบริษัทรับเจาะน้ำของตนก็ไม่มีเรื่องขัดผลประโยชน์กับใครด้วย ตอนนี้จึงคาดว่าน่าจะเป็นคนที่หวังขโมยรถไปแน่นอน

ด้านนายอนิกร แก้วไกรวรรณ อายุ 35 ปี เจ้าของที่ดินที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ตนเองทำงานอยู่ต่างจังหวัด เพิ่งทราบว่ามีการไปขุดเจาะน้ำบาดาลบนพื้นที่ดินของตน โดยที่ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้นำชุมชนไม่เคยบอกกล่าว เมื่อทราบว่าเกิดเหตุ จึงได้เดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อมาสอบถามข้อมูล เนื่องจากมีคนตายอยู่ในพื้นที่ตน ก็รู้สึกไม่สบายใจเลย

Advertisement

ขณะที่นายธวัชชัย แปสันเทียะ อายุ 42 ปี น้องชายของนายสมานฯ ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า พี่ชายของตนเองนั้นมีการทางสมอง จากอุบัติเหตุมาหลายปีแล้ว เคยมีภรรยาแต่เลิกกันไปนานแล้ว โดยมีลูก 3 คน แต่ละคนก็โตแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง ปัจจุบันพี่ชายฯ จึงได้อาศัยอยู่กับแม่ ที่ ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว และมีอาชีพรับจ้างทั่วไป เมื่อมีคนจ้างให้มานอนเฝ้ารถก็มานอน และไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใครมาก่อน ตอนนี้รู้สึกสงสารพี่ชายมากที่ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

ด้าน พ.ต.ท.จิตรกร โพธิ์คำ รอง ผกก.สภ.วังน้ำเขียว เปิดเผยว่า คดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ตัดประเด็นใดออก ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งส่วนตัว, ความขัดแย้งผลประโยชน์ธุรกิจเจาะน้ำบาดาล และประเด็นฆ่าชิงทรัพย์ โดยอยู่ระหว่างเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำพร้อมทั้งลงพื้นที่สืบหาข้อมูลของคนร้าย ส่วนศพผู้เสียชีวิตเนื่องจากถูกไฟไหม้จนเกรียม จึงได้ส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะมีเครื่องมือผ่าพิสูจน์พร้อมมากกว่าที่อื่น เพื่อพิสูจน์หาว่าการเสียชีวิตเกิดจากอะไรกันแน่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งคลี่คลายคดีนี้ให้เร็วที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image