รอง ผวจ.ประจวบฯ คุมเข้มชายแดน ป้องกันโควิดจากเมียนมา
เมื่อวันที่ 20 กันยายน นายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคง ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้บูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ในการป้องกันคนต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศตลอดแนวชายแดนไทย- เมียนมา หลังจากพบว่าในฝั่งประเทศเมียนมา เริ่มมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมา ใช้อำนาจหน้าตามกฎหมายโดยไม่ละเว้น หากถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าแรงงานต่างด้าวข่มขู่ขอให้แจ้งมาที่ตน จะสั่งการให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพื่อเข้าตรวจค้นที่พักอาศัย เพื่อตรวจสอบการให้ที่พักพิงแก่บุคคลต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าประเทศ รวมถึงการซุกซ่อนสินค้าผิดกฎหมาย
นายชาตรี กล่าวต่อว่า หากตรวจพบเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการจะถูกดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ กำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย โดยสามารถจับกุมปราบปรามผู้กระทำความผิดได้ หากไม่จับกุมเองก็ขอให้ประสานไปยังนายอำเภอ หรือปลัดอำเภอเพื่อส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองมาดำเนินการ แต่ละหมู่บ้านต้องดูแลพื้นที่ อย่าอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็น หากปล่อยปละละเลย หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จะมีการพิจารณาประสิทธิภาพการทำงานว่าสมควรจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปหรือไม่
นายชาตรี กล่าวอีกว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้กำหนดมาตรการเฝ้าระวังป้องกันเชื้อโควิด-19 ล่าสุดพบผู้ยืนยันติดเชื้อโควิด 19 ที่ จ.มะริด ประเทศเมียนมา ซึ่งมีพื้นที่ติดกับ จ.ประจวบฯ แล้ว จำนวน 6 ราย ขณะที่ทางการเมียนมา ได้ประกาศล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ของ จ.มะริด เพื่อควบคุมโรค และในสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) จะเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งจากกลุ่มเป้าหมายที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดน ทั้ง 8 อำเภอ อำเภอละ 50 ตัวอย่าง รวม 400 ตัวอย่าง เพื่อสุ่มตรวจหาเชื้อโควิด 19
“ขณะที่ ตชด.145 , 146 และ 147 จะสำรวจหาสถานที่เหมาะสมใน 3 อำเภอ คือ อ.เมือง บางสะพาน และปราณบุรี เพื่อใช้เป็นสถานที่กักกันชั่วคราวบริเวณชายแดน รองรับกรณีตรวจพบผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยหาสถานที่กักกันอำเภอละ 1 แห่ง รองรับได้แห่งละประมาณ 50 คน รวม 150 คน โดย สสจ. จะประเมินความพร้อมของสถานที่ ส่วนการนำเข้าสินค้าประเภทสัตว์น้ำจาก จ.มะริดผ่านจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร อ.เมือง อาจมีการปนเปื้อน ต้องการให้ระงับการนำเข้าเป็นการชั่วคราว สำหรับสินค้าแห้งดำเนินการได้ตามปกติ พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่และภาคเอกชนที่ตรวจรับสินค้า บริเวณจุดโนแมนแลนด์ด่านสิงขร ใส่ชุดป้องกันแบบ พีพีอี เพื่อป้องกันโรค” นายชาตรี กล่าว
ด้าน นางนิลวรรณ เรืองสวัสดิ์ เลขาธิการหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ไม่ต้องการให้ภาครัฐระงับการนำเข้าส่งออกสินค้าที่ด่านสิงขร เพราะขณะนี้มีผู้ประกอบการหลายรายที่ได้รับผลกระทบจากกการปิดด่าน ย้ายไปใช้พื้นที่อื่น เหลือผู้ประกอบการเพียง 20-30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
นายชานนท์ พลายชมพู ตัวแทนผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกอาหารทะเลที่ด่านสิงขร กล่าวว่า ได้ยกเลิกสินค้านำเข้ามาจาก จ.มะริดทั้งหมด หลังจากทางการเมียนมาประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยง และไม่ทราบว่าโควิด19 กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ใด ซึ่งอาจมีปัญหาจากการนำเข้าสินค้าที่สั่งเข้ามาในประเทศ จึงหยุดสั่งซื้อสินค้าจากจังหวัดมะริดทั้งหมดและคาดว่าเร็วๆนี้ หากทางราชการยังไม่สั่งปิดด่านเพื่องดนำเข้าสินค้า แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะยุติการค้าชั่วคราว เพื่อลดความเสี่ยง หลังจากเศรษฐกิจที่มะริดซบเซาอย่างหนัก กระทบโรงแรม ศูนย์การค้า แหล่งท่องเที่ยว ชาวบ้านส่วนใหญ่งดออกจากบ้าน งดการเดินทางโดยรถโดยสารทุกเส้นทาง
