สุดเถื่อน! คนร้ายลอบวางเพลิงเผารถแบ๊กโฮเสี่ยรับเหมาจาก จ.กระบี่ เสียหายวอดกว่า 4 ล้าน หลังเพิ่งเข้ามารับงานในพื้นที่ จ.ตรัง ได้เพียงแค่ครั้งแรก เบื้องต้นคาดขัดแย้งทางธุรกิจ หรือคู่แข่งไม่พอใจ
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 21 ก.ย.63 ร.ต.อ.อัศวนนท์ ขัตติ รอง สว.(สอบสวน) สภ.วังวิเศษ จ.ตรัง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง ฝ่ายสืบสวน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากเมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 21.00 น.(20 ก.ย.63) ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุมีคนร้ายวางเพลิงเผารถแบ๊กโฮ มูลค่ากว่า 4.4 ล้านบาท ที่จอดอยู่ข้างบ้านเลขที่ 180 หมู่ 3 บ้านพรุเตียว ต.วังมะปรางเหนือ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง วอดเสียหายแทบทั้งคัน
ที่เกิดเหตุพบรถแบ๊กโฮ ยี่ห้อฮิตาชิ สีส้ม จอดแน่นิ่ง สภาพมีร่องรอยโดนเพลิงไหม้วอดแทบทั้งคัน พบคราบน้ำมันเครื่อง เศษกระจกแตกเกลื่อนกระจายทั่วทั้งพื้นดิน ห่างออกไปด้านบนเพียงแค่ 150 เมตร พบมีเนินดินสูง ซึ่งเป็นสถานที่ที่แบ๊กโฮคันดังกล่าวใช้ในการขุดตักหิน
นายสุนทร อักษรนิช พยาน เล่าเหตุการณ์ตอนเกิดเหตุให้ฟังว่า ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.คืนที่ผ่านมา (21 ก.ย.63) ขณะที่ตนเองและครอบครัว โดยมีภรรยาและลูกเล็กๆ 1 คน กำลังนอนหลับอยู่ ได้ยินเสียงสุนัขเห่า 3-4 นาที ก็เริ่มเอะใจจึงแอบมองดูทางรูข้างฝาบ้าน เห็นเปลวไฟกำลังลุกไหม้รถแบ๊กโฮที่จอดอยู่ติดกับบ้าน ตนเองตกใจสั่นไปทั้งตัว แต่ก็ไม่กล้าออกมาดู เมื่อตั้งสติได้รีบโทรแจ้งเหตุกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 จากนั้นประมาณ 30 นาที ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปยังที่เกิดเหตุตนจึงได้ออกมา และช่วยกันดับไฟที่กำลังลุกไหม้เผาตัวรถ
นายสุนทรเล่าต่อว่า ตนอยู่ที่นี่มาเกือบปีมีอาชีพกรีดยางก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใคร ตนเองก็ไม่ทราบสาเหตุการก่อเหตุการณ์เผาครั้งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่มีอะไรที่ผิดสังเกต ขณะเกิดเหตุแม้แต่กลิ่นน้ำมันก็ไม่ได้กลิ่น สำหรับรถแบ๊กโฮคันดังกล่าวมาทำงานขุดหน้าดินได้ 2 อาทิตย์ได้แล้ว แต่รถแบ๊กโฮคันนี้ลงทำงานแล้วโดนดินหล่นใส่จนกระจกแตก เจ้าของจึงนำลงมาจอดเพื่อรอซ่อมเอากระจกมาใส่ใหม่ ซึ่งงานยังไม่ได้ทำ มาจอดอยู่ 4 วันแล้วก่อนเกิดเหตุ
ต่อมาที่ สภ.วังวิเศษ ร.ต.อ.อัศวนนท์ ขัตติ รอง สว.(สอบสวน) ได้เชิญตัว โกชาย (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุล) ชาว จ.กระบี่ ซึ่งเป็นเจ้าของรถแบ๊กโฮคันดังกล่าว พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงรายหนึ่ง (ไม่ทราบชื่อ-สกุล) ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง เข้ามาทำการสอบปากคำ เบื้องต้นทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงรายดังกล่าว เป็นผู้รับเหมา ได้ประมูลงานจากเทศบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.กระบี่ และได้ว่าจ้างโกชาย ซึ่งเป็นเจ้าของแบ๊กโฮคันดังกล่าว มาขุดตักหินในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปก่อสร้าง ซึ่งเป็นที่ดินของโกเดียว (ไม่ทราบชื่อ-สกุล) โดยเป็นคนในพื้นที่ เนื่องจากรถแบ๊กโฮของตนเองมีไม่เพียงพอ ก่อนที่จะเข้ามาทำงานได้เพียง 2 อาทิตย์ และได้มาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น โดยที่ผ่านมาทั้งสองให้การว่าไม่เคยมีความขัดแย้งทางด้านธุรกิจกับใครมาก่อน และโกชาย ซึ่งเป็นเจ้าของรถแบ๊กโฮ เป็นคนนอกพื้นที่ และเพิ่งมารับงานในพื้นที่ จ.ตรัง ได้เพียงแค่ครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะมีการวางแผน และรู้จักพื้นที่เป็นอย่างดี เนื่องจากไม่มีการใช้รถเป็นยานพาหนะ เบื้องต้นสาเหตุยังไม่สามารถสรุปได้ แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากความไม่พึงพอใจของผู้รับเหมารายอื่น หรือขัดแย้งกันทางธุรกิจ โดยจะทำการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
