กรมเจ้าท่า ตั้งคณะกรรมการรื้อโฮมสเตย์-สิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำ ริมทะเลสาบสงขลา

กรมเจ้าท่า ตั้งคณะกรรมการรื้อโฮมสเตย์-สิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำ ริมทะเลสาบสงขลา

เมื่อวันที่ 24 กันยายน กรมเจ้าท่าเตรียมดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำ ประเภทโฮมสเตย์ ในทะเลสาบสงขลา รอบตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ในกลุ่มที่ไม่ได้มีการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสงขลา จึงไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่ได้รับการคุ้มครองชั่วคราวตามคำสั่งศาลปกครอง โดยล่าสุดนั้น นายสุธี สุขสง ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสงขลา เปิดเผยว่า ทางกรมเจ้าท่าได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเตรียมที่จะทำหน้าที่ในการรื้อถอน หลังมีคำสั่งให้เจ้าของโฮมสเตย์ได้ทำการ รื้อถอนโฮมสเตย์ ทั้งในรายเดิมและรายที่ปลูกสร้างขึ้นใหม่ แต่ยังยกเว้นในกลุ่มที่อยู่ระหว่างการดำเนินการฟ้องร้องและรอการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด หลัง 17 กันยายนที่ผ่านมา ศาลปกครองสงขลา ได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง กรณีชาวบ้านเจ้าของโฮมสเตย์ยื่นฟ้อง สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสงขลาและสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 โดยจะคณะกรรมการชุดนี้ ยังต้องมีการสำรวจว่ามีโฮมสเตย์กี่แห่ง ที่อยู่ในข่ายต้องทำการรื้อถอน โดยหากเจ้าของไม่ทำการรื้อถอน ก็จะต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมายซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ

นายสมพิศ สงพะโยม ประธานชมรมโฮมสเตย์เกาะยอ กล่าวว่า โฮมสเตย์ในตำบลเกาะยอนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์อย่างแน่นอน เพราะส่วนใหญ่ปลูกสร้างริมชายฝั่งน้ำตื้น ไม่เป็นเส้นทางเดินเรือ อีกทั้งเสา ที่ใช้ในการก่อสร้างก็เว้นระยะห่างจากกันมาก ทั้งนี้ชาวเกาะยออาศัยอยู่ริมทะเลสาบสงขลามาช้านาน ย่อมมีจิตใจมุ่งเน้นการอนุรักษ์และดูแลรักษาทะเลสาบสงขลาอยู่แล้ว ดังนั้น จึงอยากให้เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องใช้หลักรัฐศาสตร์มาแก้ปัญหาแทนการยึดหลักนิติศาสตร์มากเกินไป โดยโฮมสเตย์นั้นมีการสร้างงาน สร้างราย ส่งเสริมอาชีพให้กับคนในพื้นที่นี้ หากถูกรื้อไปก็จะสร้างความเดือดร้อนอย่างมาก

สิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำ ในทะเลสาบสงขลา โดยเฉพาะโฮมสเตย์ ที่ถูกพัฒนาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชน จากขนำเลี้ยงปลามาสู่โฮมเสตย์ ในพื้นที่ตำบลเกาะยอ อำเภอเมืองสงขลา ซึ่งในขณะนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวใน 4 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส แต่สิ่งปลูกสร้างดังกล่าวนั้นทางกรมเจ้าท่าไม่สามารถอนุญาตให้ดำเนินการได้ จึงได้ดำเนินการออกคำสั่งให้มีการรื้อถอนออกไป จนนำไปสู่การยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสงขลา

โดยมีรายงานว่าปัจจุบัน มีโฮมสเตย์ในทะเลสาบสงขลา รอบตำบลเกาะยอ กว่า 70 หลัง ซึ่งทั้งหมดนั้นจะมีลูกค้าจองเข้าพักในช่วงสุดสัปดาห์เป็นส่วนใหญ่ ในราคา 2,000-3,000 บาท ซึ่งจะมีบริการอาหารพื้นบ้าน สร้างรายได้และสร้างอาชีพให้กับชุมชนในพื้นที่นอกเหนือจากการทำประมงและทำสวนผลไม้

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image