แม่แจ้งความ ถูกผู้คุมเรือนจำหลอกโอนเงินนับหมื่น อ้างช่วยลูกพ้นผิดในคุก ผบ. สั่งสอบ

แม่แจ้งความ ถูกผู้คุมเรือนจำหลอกโอนเงินนับหมื่น อ้างช่วยลูกพ้นผิดในคุก ผบ. สั่งสอบ

เมื่อวันที่ 25 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุนทร เดชรักษา ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ได้มอบให้นายอนุชา นวลไทย ผู้อำนวยการส่วนควบคุมผู้ต้องขัง เรือนจำกลางสุราษ ฎร์ธานี ไปตรวจสอบมารดาของนักโทษชายรายหนึ่งที่คุมขังอยู่ในเรือนจำ ได้ถูกหลอกเรียกรับเงินโดยอ้างว่าสามารถช่วยเหลือทางคดีให้กับลูกชายได้

นางเล็ก(ขอสงวนชื่อ) อายุ 53 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี มารดานักโทษชาย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ย.63 ที่ผ่านมาได้มีผู้ชายคนหนึ่งเป็นผู้คุมอยู่ที่เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี โทรศัพท์เข้าหมายเลขมือถือที่ลูกสาวคนเล็กใช้โปรแกรมไลน์ติดต่อกับทางเรือนจำไว้พูดคุยเยี่ยมพี่ชาย ซึ่งสามารถแจ้งชื่อนามสกุลลูกชายของตนได้ถูกต้องและยังรู้ว่าลูกสาวคนเล็กเป็นน้องสาวของนักโทษ เหมือนกับมีข้อมูลของนักโทษอยู่

“ต่อมาตนได้พูดคุยกับผู้ชายคนดังกล่าวแจ้งว่า ลูกชายของตนที่จำคุกอยู่ในเรือนจำทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในเรือนจำกำลังจะนำตัวไปขึ้นศาลเพื่อพิจารณาคดี ซึ่งจะต้องมีโทษจำคุกถึง 5 ปี ทำให้ตนตกใจอย่างมาก เนื่องจากทราบว่าลูกชายกำลังจะพ้นโทษได้รับการปล่อยตัวในเร็วๆนี้ แต่ผู้ชายดังกล่าวบอกว่า มีเจ้านายเป็นพัสดีเวร สงสารอยากช่วยเหลือ แต่ตนจะต้องจ่ายเงิน 20,000 บาท” นางเล็ก กล่าว

นางเล็ก กล่าวอีกว่า โดยเขายังอ้างว่ามีผู้กระทำผิดร่วมกับลูกชายตนอีก 1 คนได้จ่ายเงินมาแล้ว 30,000 บาท ทำให้ตนทุกข์ใจมาก จึงพยายามต่อรองขอจ่าย 10,000 บาทเนื่องจากตนไม่มีเงินและต้องไปกู้ยืมคนอื่นมา ซึ่งผู้ชายดังกล่าวยอมรับข้อเสนอและแจ้งให้ตนโอนเงินเข้าบัญชี ชื่อ ร.ต.ต.เอมออน เพ็ชรเครือ

Advertisement

นางนุ่น กล่าวด้วยว่า ระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้คุมดังกล่าว ตนพยายามขอติดต่อกับลูกชาย แต่เขาอ้างว่าลูกชายตนถูกตีตรวน ห้ามพูดคุยกับบุคคลอื่นห้ามญาติเยี่ยม และกำชับว่าเมื่อโอนเงินเรียบร้อยแล้วให้แจ้งด้วยเพื่อจะให้ได้เยี่ยมลูกชายตามปกติ โดยหลังจากได้โอนเงินไปแล้ว ได้ไปเยี่ยมลูกชายจึงรู้ว่าไม่มีเหตุทำผิดยาเสพติดของลูกชายในเรือนจำเกิดขึ้นจริง และลูกชายเชื่อว่าตนถูกหลอก จึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี

ด้าน นายอนุชา นวลไทย ผู้อำนวยการส่วนควบคุมผู้ต้องขัง เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า นายสุนทร เดชรักษา ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ที่อยู่ระหว่างปฎิบัติราชการนอกพื้นที่ ทราบเรื่องได้มอบให้ตนตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ซึ่งตนได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดเสนอไปยังผู้บัญชา การเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว

“ขอยืนยันว่า กรมราชฑัณฑ์ไม่มีนโยบายในการเรียกรับผลประโยชน์ใดๆจากนักโทษ หรือ ญาติและหากพบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด” นายอนุชา กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image