“มิราจ”แหกโค้งหมีตาย พุ่งชนราวเหล็ก ลอยตกไหล่ทางลึก รถพังยับ
เก๋งแหกโค้งหมีตาย พุ่งชนราวเหล็กและเหินหาวตกลงไปในหุบเขาลึกกว่า 15 เมตร รถพังยับ ไม่พบคนขับ ตำรวจและหน่วยกู้ภัยพยายามค้นหานานกว่า 2 ชั่วโมง ท่ามกลางความมืด
เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 28 ก.ย. พ.ต.อ.วิวัฒนชัย์ ธรรมวิทยาภูมิ ผกก.สภ.นาหม่อม จ .สงขลา รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งชนราวเหล็กกั้นทาง บริเวณโค้งหมีตาย ถนนสายเอเชียขาเข้าอ.นาหม่อม พื้นที่หมู่4 ต.พิจิตร อ.นาหม่อม และรถเหินตกลงไปในหุบเขาที่มีความลึกกว่า 15 เมตร
ตำรวจพร้อมหน่วยกู้ภัยทุ่งขมิ้น รีบไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบว่าบริเวณโค้งหมีตายที่ราวสะพานและป้ายสัญญาณจราจรถูกรถชนเสียหาย และที่ขอบทางมีรอยหัวรถปักจนดินกระจุยกันชนรถหลุดและพลิกคว่ำลงไปในหุบเขา ต้นไม้ล้มเป็นทาง และมีแผ่นป้ายทะเบียนตกอยู่ในพงหญ้าข้างทาง หมายเลข ขล 8923 สงขลา
หน่วยกู้ภัยและตำรวจจึงรีบลงไปดูด้านล่างก็พบรถเก๋งมิตซูบิชิ มิราจ สีดำ สภาพด้านหน้าพังยับและรถยุบทั้งคันจากการพลิกคว่ำและชนต้นไม้ ตัวรถด้านคนจับอัดติดอยู่กับต้นไม้ใหญ่และลึกลงไปจากถนนประมาณ 15 เมตร แต่ในรถและบริเวณจุดเกิดเหตุไม่พบคนขับหรือคนบาดเจ็บแม้แต่คนเดียว
หน่วยกู้ภัยจึงได้ระดมกันค้นหาบริเวณจุดที่รถเก๋งคันนี้ตกลงไป ซึ่งค่อนข้างลำบากเพราะเป็นป่ารกทึบและมืด พยายามหาให้พบเพราะกลัวว่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัสหรืออาจจะเสียชีวิตและกระเด็นหลุดจากรถ แต่หลังจากที่พยายามค้นหาอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมงไม่พบ
มีรายงานว่า ต่อมา เจ้าหน้าที่ ตำรวจได้ตรวจสอบผู้ครอบครองรถตามทะเบียนรถโดยพยายามสืบหาจากหมายเลขโทรศัพท์ของญาติที่พอจะติดต่อได้ ปรากฏว่าคนขับและเป็นเจ้าของรถคือ นายสนธะญา ชินภาส เป็นชาว จ.ปัตตานี ได้ออกไปจากจุดเกิดเหตุไปตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุใหม่ๆ และบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยโดยมีญาติมารับไปและไปพักอยู่ที่บ้านญาติที่ อ.เมืองสงขลา
ตำรวจและกู้ภัยถึงกับส่ายหัวและมองหน้ากันและหัวเราะ เพราะพยายามหาด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าจะเป็นอะไรแต่คนขับไม่ได้แจ้งหรือประสานงานกับตำรวจว่าเกิดอุบัติเหตุแต่อย่างใดหรือเดินทางกลับไปแล้ว
เบื้องต้นทราบว่าขับรถมาจาก จ.ปัตตานี และมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งมีฝนตกถนนลื่นรถเกิดเสียหลักแหกโค้งพุ่งลงไปในหุบเขาพลิกคว่ำ และรอดมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อบาดเจ็บแค่เล็กน้อยพักอยู่บ้านญาติ
เจ้าของรถจะมาพบกับตำรวจอีกครั้งและเตรียมกู้ซากรถขึ้นมาจากหุบเขา ซึ่งอาจจะเป็นวันพรุ่งนี้
