โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ”โวย” ถูกหลอก ย้ายการลงทุนจากจีน ลงชายแดนใต้ เจ็ง 400 ล้าน ศอ.บต.แจง
รายงานข่าวว่ากรณี บริษัท ซูเพิร์บ ครีเอชั่น เฟอร์นิเจอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้มีการอ้างถึง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต.) “หลอกขายฝัน ย้ายจากจีน ตั้งโรงงานปัตตานี ลงทุน 400 ล. ถูกลอยแพ เจ๊ง” นำไปสู่การทำลายความเชื่อมั่นของภาคเอกชนต่อการลงทุน เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้
“บริบทพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้านโครงสร้างพื้นฐานและการอำนวยความสะดวกการคมนาคมขนส่งยังไม่ดีมากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับภูมิภาคอื่นของประเทศไทย หากเปรียบเทียบกับประเทศมาเลเซียประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงที่มีความพร้อมมากกว่าจังหวัดชายแดนภาคใต้ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง ท่าเรือพาณิชย์ขนาดใหญ่ ระบบไฟฟ้าเพื่อความมั่นคงในการประกอบธุรกิจและอุตสาหกรรม ระบบการขนส่งทางราง ระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องและปัจจัยทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเกิดขึ้นจากการวางระบบการศึกษาที่ดี เพื่อผลิตคนที่มีคุณภาพเข้าสู่ระบบงาน”
รายงานข่าวว่า เป็นปัจจัยหลักของการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนภาคเอกชน กรณีของบริษัทฯมีการอ้างถึงการขอชดเชยค่าขนส่งทางเรือ เนื่องจากไม่สามารถส่งออกทางเรือได้โดยตรงและ เป็นเหตุให้เป็นต้นทุนของบริษัทฯ ที่เพิ่มสูงขึ้น หากมีการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกที่มีการอำนวยความสะดวกที่ดีกว่าจังหวัดชายแดนภาคใต้จะประหยัดได้มากกว่า ในแง่กลยุทธ์ทางธุรกิจทางพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงมิอาจจะพัฒนาให้เป็นไปได้ตามเป้าหมาย “
รายงานข่าวว่าหากจะเร่งรัดการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในมิติการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อเชื่อมไปยังการพัฒนาคุณภาพชีวิตนั้น จำเป็นจะต้องมีการลงทุนขนานใหญ่ด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักธุรกิจและประชาชนเป็นขนานใหญ่ และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของภูมิภาค โดยมีเป้าหมายสำคัญที่จะเปลี่ยนพื้นที่ความขัดแย้ง ให้เป็นพื้นที่การค้าและการลงทุน เชื่อมต่อกับโลกมุสลิมในอนาคตให้ได้ มากกว่าที่จะใช้นโยบายการอุดหนุน หรือ การชดเชยส่วนต่างการขนส่ง ซึ่งทำได้ยากเพราะอาจจะขัดต่อหลักการการค้าเสรีตามที่ WTO ได้ตั้งหลักการไว้
“ภาคเอกชนส่วนใหญ่ไม่เพียงแต่เอกชนในพื้นที่และนอกพื้นที่ ที่การสนับสนุนของรัฐดูแลไม่เท่าเทียมกัน ที่สำคัญสุดคือทำให้เอกชนสามารถแข่งขันในการเชิงธุรกิจได้บนขาของตนเองซึ่งเป็นหลักการที่มั่นคงและยั่งยืน”
รายงานข่าวว่าการเปลี่ยนผังเมืองเพื่อให้รองรับการลงทุนของภาคเอกชน ศอ.บต. ในฐานะหน่วยรับผิดชอบจะได้หยิบยกเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการร่วมรัฐและเอกชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ เสนอประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร เมื่อวันที่ 27 ม.ค.63 จ.นราธิวาส เพื่อขอความร่วมมือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดดำเนินการตามที่ภาคเอกชนร้องขอ
“สาเหตุสำคัญที่ต้องชี้แจงสร้างความเข้าใจกัน คือ พื้นที่ที่สามารถรองรับการลงทุนตามนโยบายของรัฐบาล อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมืองต้นแบบเกษตรอุตสาหกรรมผสมผสานนั้น ได้ถูกเปลี่ยนเป็นสีม่วงเพื่อรองรับการลงทุนแต่เริ่มแรก นับตั้งแต่ประกาศนโยบายออกมา 3 พันไร่เศษ”
รายงานข่าวว่าด้วยเหตุผลบางประการจากการเจรจาธุรกิจของเอกชน หรือเงื่อนไขอื่นใดที่แทรกแซงการทำงานเข้ามา ทำให้ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ เป็นผลทำให้บริษัทฯ ต้องไปซื้อที่ดินในพื้นที่ผังสีเขียวในราคาที่แพงกว่าและ การถมที่อีกเกือบหนึ่งร้อยล้านบาท จ.ปัตตานีก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในการทำงาน เพียงแต่การทำงานนั้น จะต้องใช้ความรอบคอบอย่างมากเนื่องจากพื้นที่รอบนอกเป็นพื้นที่รับน้ำของจังหวัดปัตตานี หากการดำเนินการไม่รอบคอบก็จะกระทบต่อประชาชนในเขตพื้นที่อย่างที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และทั้งหมดต้องเป็นไปตามกฎหมายแต่ละหน่วยงานที่กำหนดไว้เป็นขั้นเป็นตอน
ศอ.บต. ได้ทำหน้าที่ประสานงานไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ในฐานะศูนย์กลางการพัฒนานั้น จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปตามบทบาทและอำนาจหน้าที่ของหน่วย เพื่อให้หน่วยที่เกี่ยวข้องได้ไปวิเคราะห์และจัดแนวทางการให้ความช่วยเหลือตามที่เอกชนร้องขอให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
รายงานข่าวว่าไม่มีอำนาจหน้าที่ไปแทรกแซงการทำงานได้ อย่างดีที่สุด คือ ความพยายามทำให้การทำงานนั้นเร็วขึ้น ลดเงื่อนไขบางประการที่เป็นอุปสรรคและข้อจำกัดอันเนื่องมาจากระเบียบและกฎหมาย แต่บางเรื่องที่เป็นมาตรฐานการทำงานทั้งของประเทศและของโลกก็ไม่อาจไปแทรกแซงได้ แม้ว่าจะเป็นข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีก็ตาม
“ต้องมีการทบทวนนโยบายการอำนวยความสะดวกอีกครั้งว่า วันนี้จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องมีหน่วยที่เป็น One Start one Stop Service อย่างแท้จริงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องลดเงื่อนไขการทำงานที่ล่าช้าและหลายขั้นตอนเพื่อให้เกิดการลงทุนที่เป็นรูปธรรมตามเป้าหมายของภาคเอกชนที่หวังดีจะลงไปช่วยพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความกินดี อยู่ดีและช่วยให้เหตุการณ์ในพื้นที่ลดลงเป็นพื้นที่ปกติเช่นเดียวกับภูมิภาคอื่น ๆ ของประเทศไทย”
หากบริษัทฯ ยังคงมีการดำเนินการในพื้นที่อยู่ ศอ.บต. ได้เตรียมการดูแลและช่วยเหลือในเรื่องที่จำเป็นเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับเอกชน ไม่เพียงแต่บริษัทฯ นี้ เท่านั้น ยังรวมถึงอีกกว่า 800 ธุรกิจ-วิสาหกิจชุมชนกระจายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประสานไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อยกระดับการขนส่งทางรางเชื่อมโยงไปยังภาคตะวันออกเพื่อให้ส่งสินค้าได้และใช้ราคาขนส่งที่ต่ำ
“ได้มีการเตรียมการที่จะทำบันทึกความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังมีความพยายามในการประสานงานเรื่องการฝึกและพัฒนาทักษะพนักงานที่จะเข้าไปทำงานในบริษัทฯ การขอรับสิทธิส่วนลดค่าประกันสังคม การประกันภัยและอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมพิเศษนอกจากที่บริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์จาก BOI ตามที่ อ.หนองจิก ในฐานะเมืองต้นแบบได้รับสิทธิประโยชน์การลงทุนสูงสุดในประเทศไทยแล้ว”