แม่แจ้งความติวเตอร์ตีลูกจนช้ำ-นอนเพ้อ เหตุท่องศัพท์ไม่ได้ ครูแจงเคยตกลงเรื่องทำโทษกับ ผปค.แล้ว

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่ สภ.เมืองสตูล มีคุณแม่วัย 35 ปี พาบุตรสาววัย 9 ขวบ ขึ้นให้ปากคำตำรวจ หลังแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้ถึงพฤติกรรมครูสอนติวเตอร์แห่งหนึ่ง ซึ่งใช้ไม้เรียวฟาดเด็กเพื่อลงโทษถึง 11 ครั้งจนเป็นแผลเขียวช้ำ สร้างความปวดร้าวให้กับคนเป็นแม่ที่สงสารลูกจับใจ บอกว่า ตนไม่เคยเลี้ยงแบบทุบตีลูก ยามลูกนอนหลับยังละเมอเพ้อ “ครูอย่าตีหนู” ยิ่งทำให้เห็นว่าต้องแจ้งความเพื่อดำเนินคดีเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างถึงการกระทำของครูที่ทำเกินกว่าเหตุ เพียงเพราะลูกท่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษไม่ได้ตามที่ครูได้มอบหมายให้ท่อง 60 คำ ทั้งนี้ ลูกบอกว่าหากจำศัพท์ไม่ได้ ครูจะตีคำศัพท์ละ 1 ครั้ง ปรากฏว่าลูกจำไม่ได้ถึง 11 คำ ทำให้ถูกตี 11 ครั้ง จนต้องไปพบแพทย์ยืนยันว่าฟกช้ำจริง

พ.ต.ท.ภรากรณ์ จันทะโชติ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสตูล เจ้าของคดี บอกว่า วันนี้ทางตำรวจรับเรื่องสอบปากคำผู้เสียหายแล้ว ส่วนตัวเด็กจะมีการสอบผ่านนักจิตวิทยา ซึ่งเรื่องนี้ต้องดูว่ากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กหรือไม่ ซึ่งต้องเรียกคุณครูมาสอบปากคำอีกครั้ง ส่วนการทำร้ายร่างกายเด็กถือว่าเป็นที่ชัดเจนอยู่แล้ว โดยทางแพทย์ระบุว่าบาดแผลมีร่องรอยฟกช้ำ รักษาไม่เกิน 1 วัน ส่วนทางด้านจิตใจทางแม่ให้การว่าเด็กนอนละเมอหลังถูกตี ทำให้ยังไม่ได้ตั้งขอกล่าวหาโดยต้องดูข้อกฎหมายก่อน เพราะเป็นคดีแรกๆ ของจ.สตูล

ด้านครูจูน ที่เปิดติวเตอร์ ได้ชี้แจงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ได้ตีเด็กจริง แต่เป็นการลงโทษตามที่เคยได้ตกลงไว้กับผู้ปกครองและเด็กว่า หากทำไม่ได้ต้องลงโทษ ซึ่งการลงโทษเริ่มตั้งแต่ด้วยวาจา การเขกโต๊ะ การวิ่งรอบสนาม และการตี ซึ่งเป็นการไต่ระดับเพื่อให้เด็กมีระเบียบวินัย โดยกรณีนี้ได้มอบให้น้องไปท่องศัพท์ภาษาอังกฤษ จำนวน 60 คำ ภายใน 3 เดือน โดยให้ซ้อมทำทุกวันก่อนจะนัดส่งการบ้าน โดยย้ำว่าหากไม่ต้องต้องถูกลงโทษด้วยการตีคำละ 1 ที

ครูจูนกล่าวอีกว่า การตีในครั้งนี้ไม่ได้ใส่อารมณ์ความรู้สึกไป ตีเสร็จก็ยังบอกกับผู้ปกครองว่าได้ลงโทษด้วยการตี 11 ครั้ง ซึ่งก็เป็นข้อตกลงกันด้วยวาจา ก่อนเริ่มการสอนว่าต้องทำโทษเด็กด้วยการตีได้ด้วยนะ เพื่อสร้างวินัยให้กับเด็ก และยินดีรับฟังในคำติชม หากจะให้ปรับปรุงในการสอน

Advertisement

“การตีน้องในวันนั้น ร่วมกับเพื่อนด้วยอีก 3 คนที่ถูกทำโทษ ซึ่งการใช้วิธีการนี้ที่ผ่านมาก็ทำให้เด็กมีระเบียบวินัย ที่จะทำได้มากขึ้น เพราะหากเด็กจำคำศัพท์ไม่ได้ก็ไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ หลังสร้างความไม่สบายใจให้กับคุณแม่และผู้ปกครอง น้องก็เข้าใจในความรู้สึก แต่ยืนยันว่าทำหน้าที่ในกรอบของความเป็นครูในวิชาชีพที่ต้องการให้เด็กได้ดี และดึงศักยภาพเด็กออกมาให้มากที่สุด” ครูจูนกล่าว

ด้านผู้ปกครองคนอื่นที่ทราบข่าว และมีบุตรหลานเรียนที่ติวเตอร์นี้ ยอมรับกับสื่อว่า บุตรของตนก็ถูกครูตีเป็นแผลเขียวช้ำเหมือนกัน เมื่อสอบถามว่า สาเหตุเกิดจากลูกผิด และไม่ทำตามที่ครูบอกใช่หรือไม่ ก็ยอมรับในบทลงโทษ และเห็นว่าการสอนด้วยการตี ทำให้เด็กมีวินัย และระเบียบมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญการเรียนของเด็กก็ดียิ่งขึ้น

คลิกอ่าน ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 ซึ่งระบุว่า โทษที่จะลงโทษแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทำความผิด มี 4 สถาน ดังนี้ (1) ว่ากล่าวตักเตือน (2) ทำทัณฑ์บน (3) ตัดคะแนนความประพฤติ (4) ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image