จับกุมแรงงานไทยลักลอบกลับตามแนวชายแดนไทย-มาเลย์ โดยไม่ผ่านการคัดกรองโควิด พบไข้สูง 37.5 องศา

จับกุมแรงงานไทยลักลอบกลับตามแนวชายแดนไทย-มาเลย์ โดยไม่ผ่านการคัดกรองโควิด พบไข้สูง 37.5 องศา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนไทยมาเลเซียเพิ่มความเข้มงวด ป้องกันการลักลอบเข้าเมือง จากผลพวงของสถานการณ์ “โควิด-19” ที่กลับมาระบาดอีกครั้งและยังคุมไม่อยู่ โดยเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 9 ตุลาคม เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ได้จับกุมตัว นายเกตุ พันธุ์งาม อายุ 60 ปี ชาว จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นแรงงานไทยที่เข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซีย ได้ที่บริเวณหลักเขตแดนที่ 28 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ขณะลักกลอบกลับเข้าประเทศไทยมาโดยไม่ได้ลงทะเบียนกับสถานกงสุลไทยในมาเลเซีย รวมถึงไม่ผ่านการคัดกรองโควิด-19 และไม่ผ่านขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง

เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปยังด่านพรมแดนสะเดา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ อำเภอสะเดา ตรวจวัดไข้ ผลปรากฏว่า มีไข้สูงถึง 37.5 องศา เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวนายเกตุส่งโรงพยาบาลปาดังเบซาร์ทันที เพื่อให้โรงพยาบาลทำการตรวจอย่างละเอียด เพาะเชื้อ และกักตัวรอดูอาการ 14 วันว่าติดเชื้อโควิดหรือไม่

จากการสอบถามนายเกตุ ให้การว่า ตนเองอาศัยอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย เป็นเวลาเกือบ 10 ปี ไปทำงาน ปลูกผัก ทำไร่ และ ช่วงเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ทำให้ต้องหยุดงานไปหลายเดือน จึงอยากกลับบ้าน แต่ไม่มีเอกสารการเดินทาง บัตรประจำตัวประชาชน พาสปอร์ต ทำให้ต้องลักลอบเข้าประเทศไทยแบบผิดกฎหมาย

Advertisement

นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา เปิดเผยว่ายยังมีการแพร่ระบาดของโรคโควิดในประเทศเพื่อนบ้าน ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังตามแนวชายแดนไทย เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าประเทศตามช่องทางธรรมชาติน อ.สะเดา สะบ้าย้อย และ อ.นาทวี มีหน่วยความมั่นคงทำงานบูรณาการกับผู้นำท้องที่และ อสม. ขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบหรือทราบว่ามีประชาชนเดินทางจากประเทศเพื่อนบ้านโดยไม้ผ่านการตรวจคัดกรองให้รีบแจ้ง อสม.และผู้นำท้องที่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image