ตำรวจเตรียมออกหมายจับ “บอย บ้านแขก” มือมีดแทงกระซวกคอหนุ่มรุ่นน้องตายคาที่
จากกรณีค่ำ วันที่ 10 ต.ค. มีคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงร่างของนายสถาพร ดอนชูไพร อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 9 บ้านนาหัวเซ ต.นครไทย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เข้าที่ลำคอด้านซ้าย 2 แห่ง ใต้ราวนม 1 แห่ง เสียชีวิตในสภาพนอนจมกองเลือดอย่างน่าสยดสยอง เหตุเกิดภายในซอยบ้านแขก หน้าบ้านเลขที่ 93 หมู่ 1 ต.นครไทย อ.นครไทย ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากความแค้นส่วนตัวของวัยรุ่นคู่อริที่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ซึ่งหลังก่อเหตุคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างลงพื้นที่ติดตามคนร้ายรายนี้เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ล่าสุด วันที่ 11 ต.ต. พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบช.ภ.6 ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าในคดี เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ โดยได้ประชุมหารือแนวทางการสืบสวนร่วมกับ พ.ต.อ.ธรธวัช แจ่มอุดมโชต ผกก.สภ.นครไทย และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เพื่อคลี่คลายคดีนี้โดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม รวมถึงพยานแวดล้อมต่างๆ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 มาเก็บดีเอ็นเอและรอยนิ้วมือแฝงของคนร้าย ที่นำอาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 6 นิ้ว สภาพเปื้อนเลือดไปทิ้งไว้ไม่ไกลจุดเกิดเหตุ
ด้าน พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก กล่าวว่า สำหรับคดีนี้มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก มีการสอบปากคำพยานไปแล้วจำนวน 3 ปาก ซึ่งให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ทราบว่าผู้ก่อเหตุดังกล่าว คือ นายบวรศักดิ์ หรือบอย อนันตการ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/1 หมู่ 1 ต.นครไทย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม คาดว่ายังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ ส่วนสาเหตุมาจากเรื่องทะเลาะกันและเคยมีเรื่องไม่เข้าใจกันมาก่อน โดยวันนี้ทางตำรวจจะขออำนาจศาลจังหวัดพิษณุโลกเพื่อออกหมายจับในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาต่อไป จึงฝากไปถึงคนร้ายอย่าคิดหนีให้รีบมาเข้ามอบตัวโดยด่วน
ขณะที่ นายภัทรดิฐ ภาละบาล อายุ 22 ปี เพื่อนผู้ตาย กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุนั้น นายสถาพร ดอนชูไพร ผู้เสียชีวิต ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มากับเพื่อนชื่อว่าเอ็ม มาหาตนเองที่บ้านหลังเกิดเหตุของนายโดม ที่ตนกำลังนั่งเล่นเกมส์ออนไลน์กันอยู่ เพื่อมาทวงถามโน้ตบุ๊คที่ได้นำมาให้ซ่อมเอาไว้ แต่ขณะนั้นเป็นจังหวะที่นายบวรศักดิ์ หรือบอย อนันตการ ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพบกับนายสถาพรที่คาดว่าเคยมีเรื่องกันมาก่อน จึงจอดรถเข้าไปพูดคุยและมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง ก่อนจะมีการชกต่อยกันขึ้น แต่นายบวรศักดิ์สู้แรงไม่ไหวเนื่องจากตัวเล็กกว่า ซึ่งนายโดม เจ้าของบ้าน ก็ได้ออกมาห้ามปรามแล้ว แต่ก็ถูกนายเอ็มเพื่อนของนายสถาพรล็อคคอเอาไว้ เพราะเกรงว่าจะเข้าไปช่วยนายบวรศักดิ์ ระหว่างช่วงชลมุนนายบวรศักดิ์จึงใช้อาวุธมีดที่เตรียมมากระหน่ำแทงร่างนายสถาพรไปหลายครั้ง ก่อนจะรีบหลบหนีไป ซึ่งขณะนั้นนายสถาพรยังพอมีสติเดินไปค่อมรถจักรยานยนต์เพื่อที่จะรีบไปโรงพยาบาล แต่สุดท้ายกลับหมดแรงเนื่องจากถูกมีดแทงเสียเลือดไปจำนวนมาก ล้มลงกองกับพื้นเสียชีวิตดังกล่าว
ขณะที่ครอบครัวของ นายสถาพร ดอนชูไพร อายุ 29 ปี ผู้เสียชีวิต ได้นำศพจากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชนครไทย มาตั้งบำเพ็ญกุศลเพื่อสวดพระอภิธรรมเอาไว้ที่วัดหน้าพระธาตุ อ.นครไทย ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติๆ โดย นางชอุ้ม คงเทศน์ อายุ 71 ปี ยายของผู้เสียชีวิต กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนเลี้ยงนายสถาพรมาตั้งแต่เล็กๆ เพราะพ่อแม่แยกทางกัน โดยปกติแล้วก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่ติดเพื่อนติดฝูงชอบเที่ยว แต่ก็ไม่มีนิสัยเกเรเป็นนักเลงชอบไประรานใคร และไม่เคยรู้จักกับคนร้ายมาก่อน เหตุใดจึงต้องมาฆ่ามาแกงกันขนาดนี้ นอกจากนี้ยังทราบว่านายบวรศักดิ์เคยต้องคดีเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำได้ไม่นาน ในคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนสาหัส แต่สุดท้ายก็ยังมาก่อเหตุฆ่าหลานชายตนอีก ถ้าตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายได้ก็อยากจะถามว่าทำไปเพราะสาเหตุใด อยากให้มาขอขมาศพของหลานชายเพื่อให้ดวงวิญญาณไปสู่สุคติ ไม่อยากให้จองเวรต่อกันและกัน พร้อมจะอโหสิกรรมให้กับสิ่งที่ทำลงไปอีกด้วย ส่วนศพหลานชายจะตั้งสวดพระอภิธรรม จำนวน 3 คืน ก่อนจะมีพิธีฌาปนกิจ
