รวบคาผ้าเหลือง! แอดมินเพจฉาว หลอกแฟนสาวสวิงกิ้ง ขายคลิปหาเงิน ก่อนหนีมาบวช

รวบคาผ้าเหลือง! แอดมินเพจฉาว หลอกแฟนสาวสวิงกิ้ง ขายคลิปหาเงิน ก่อนหนีมาบวช

พ่อใจสลายเห็นคลิปอนาจารลูกสาว ว่อนโซเซียล พาลูกสาวเข้าขอความช่วยเหลือพัฒนาสังคมจังหวัดพิจิตร-พิษณุโลก และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนออกหมายจับกุมหนุ่มเมืองพิจิตร ที่หลอกแฟนสาวให้มีเพศสัมพันธ์แล้วถ่ายรูปและ คลิป นำไปแบล็คเมล ให้ร่วมเพศแบบสวิงกิ้ง ในกลุ่มโซเซียล เพื่อหารายได้ มีผู้ตกเป็นเหยื่อแล้วหลาย ในพื้นที่ พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ ก่อนถูกจับได้แอบไปบวชเป็นพระในวัดจังหวัดพิจิตรได้เพียง 3 วัน

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 13 ตุลาคม 2563 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก พล.ต.ต.พยู ธนะศรีสืบวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก พร้อมด้วย นางอรนุช ชัยชาญ รักษาการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร และ นางเอื้องดอย กีรติบริบูรณ์ รักษาการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด พิษณุโลก ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม แอดมินจัดสวิงกิ้ง หารายได้จากการขายคลิปในโลกออนไลน์

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2563 ได้มี พ่อของ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ชาว จ.พิจิตร ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงาน สอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ว่าบุตรสาวได้ถูกนายณัฐภัทร จารุฤกษ์(เอ็ม) อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/1 ม.1 ต.วังสำโรง อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ผู้ต้องหา ได้ข่มขืนใจ กักขังหน่วงเหนียว ทำร้ายร่างกาย และพา น.ส.เอ ไปให้ผู้อื่นกระทำชำเรา ในลักษณะกลุ่ม (สวิงกิ้ง) โดยนายเอ็มฯได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวขณะที่ นส.เอ ถูกกระทำชำเราไว้จากนั้นได้นำภาพและภาพเคลื่อนไหวไปเผยแพร่และโฆษณาในแอพพลิเคชั่นทวิตเตอร์ และกลุ่มไลน์ เพื่อหารายได้ ที่นายเอ็มฯได้จัดตั้งขึ้น โดยเชิญชวนให้บุคคลที่สนใจ(ลูกค้า)จ่ายเงินจำนวน 600 บาท เพื่อเป็นค่าสมัครเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม และสามารถข้าไปชมภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหวที่นายเอ็มฯได้บันทึกขณะที่ นส.เอ ถูกกระทำชำเราไว้ อีกทั้ง นายเอ็มฯได้พา น.ส.เอ ไปให้ผู้อื่นกระทำชำเรา ในลักษณะเดียวกันอีกหลายครั้งต่างท้องที่ ทั้ง จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ และ จ.พิษณุโลก ทำให้ น ส.เอได้รับความเสียหาย

Advertisement

เนื่องจาก กรณีดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชนและเป็นการนำสื่อลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ สร้างความเสียหายแก่ผู้เสียหายเป็นอย่างมาก ทางศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 6 จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งมีอำนาจหน้าที่สืบสวน ปราบปราม จับกุม ผู้กระทำความผิด เกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ต และชุดปฏิบัติงานศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ภาค 6 ชุดปฏิบัติการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้ร่วมกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน

จนขออนุมัติ หมายจับจากศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ จ.248/2563 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2563 ในฐานความผิด “เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อลวงไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม”และเป็นความผิดฐาน “ผลิตมีไว้หรือเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร เพื่อการค้า และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลใดๆที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้” จึงได้ทำการสืบสวนจับกุม นายเอ็มฯ (นามสมมุติ)ผู้ต้องหา ได้ที่ จ.พิจิตร และขอหมายค้นจากศาลจังหวัดพิจิตร ที่ ค.ดด7/563 ลงวันที่ 12 ตุลาคม 2563 ตรวจค้นบ้านผู้ต้องหา เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในการกระทำความผิด ตาม พระราชบัญญัติค้ามนุษย์

พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ทั้งนี้ ตำรวจได้ตามไปจับกุมนายเอ็มได้ที่วัดแห่งหนึ่ง ในจังหวัดพิจิตร หลังจากบวชได้เป็นเวลา 3 วัน และ ทำการสึกทันทีพร้อมควบคุมตัวมาสอบสวนที่สภ.เมืองพิษณุโลก และ จากการตรวจค้น ได้ทำการตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่องเพื่อส่งตรวจพิสูจน์การกระทำความผิดต่อไป จากพฤติการณ์การกระทำผิดของนายณัฐภัทร ผู้ต้องหา จะเห็นได้ว่านอกจากความผิดที่ปรากฏตามหมายจับ แล้ว จะเห็นได้ว่ามีการกระทำที่เป็นธุระจัดหา จัดให้มีการค้าประเวณีจากการสวิงกิ้ง และเป็นผู้ถ่ายภาพผลิตสื่อลามกด้วยตนเอง โดยที่ผู้เสียหายไม่ยินยอม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาประโยชน์รายได้ จากการนำภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่ง ลงกลุ่มไลน์ ที่จัดตั้งขึ้นมา ซึ่งเป็นฐานความผิด “ค้ามนุษย์”

Advertisement

พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ได้บอกต่อว่าพฤติกรรมของ นายเอ็ม ผู้ต้องหานั้น ได้ใช้วิธีการคบหาเป็นแฟนกับผู้เสียหายก่อน โดยคบกันได้ประมาณ 1 ปี หลังจากนั้นได้ตั้งกล้องแอบถ่ายขณะมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหาย จากนั้นได้นำคลิปตัวนั้นมาข่มขู่ บังคับ ขืนใจ ให้ตัวผู้เสียหายต้องยอมไปมีเพศสัมพันธ์แบบสวิงกิ้ง ใน 3 จังหวัด คือ พิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก รวมทั้งยังมีการทำร้ายร่างกายผู้เสียหายอีกด้วย

นางอรนุช ชัยชาญ รักษาการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นครั้งแรก เนื่องพ่อของ นางสาวเอ นั้น ได้เห็นภาพลูกสาว ที่กลุ่มไลน์ของเพื่อน นำมาให้ดู ว่าเป็นลูกสาวตัวเองหรือไม่ ผู้เป็นพ่อ เมื่อเห็นคลิปของลูกสาว ถึงตกใจและน้ำตาไหลพราก ตอนแรกก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้พาลูกสาว มาขอความเป็นธรรมและร้องเรียนกับ พมจ.พิจิตร หลังจากนั้นทาง พมจ.พิจิตร ได้ประสานกับ ชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ต หรือ TICAC ตำรวจภูธรภาค 6 เพื่อดำเนินคดีกับนายเอ็ม และล่าสุดทราบว่านายเอ็มฯ ได้นำแฟนสาว มาจัดฉากสวิ้งกิ้ง ในโรงแรมแห่ง ในที่พื้นที่ จ.พิษณุโลก จึงเริ่มหาข้อมูลและหลักฐานในการออกหมายจับดำเนินคดีต่อไป ซึ่งเชื่อว่านายเอ็มฯ ก่อเหตุเช่นนี้ในพื้นที่หลายจังหวัด ทั้ง จ.นครสวรรค์ พิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก มีเหยื่อที่ยังไม่กล้าออกมาแจ้งความอีกหลายราย

จึงฝากสื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ ให้ทราบโดยทั่วกัน ในเรื่องความผิดเกี่ยวกับสื่อลามกออนไลน์ ซึ่งในปัจจุบันมีการสร้างกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นไลน์ ทวิตเตอร์ เฟสบุ๊ค มาเพื่อหารายได้จากการเผยแพร่สื่อลามกเป็นจำนวนมาก ว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับผู้เสียหายเป็นอย่างมาก และหากมีผู้เสียหายในลักษณะดังกล่าวขอให้เข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที โดยทางตำรวจจะทำการเก็บข้อมูลทุกอย่างไว้เป็นความลับเพื่อป้องกันการเสียหายของตัวผู้เสียหาย เพื่อช่วยกันกำจัดขบวนการสื่อลามก อนาจารให้หมดสิ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image