วันที่ 7 สิงหาคม 2559 นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ อดีตเลขาธิการหอการค้าภาคอีสาน เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ในพื้นที่ต่างอำเภอของจังหวัดนครราชสีมาวันนี้ ถือว่าไม่ค่อยคึกคักเท่ากับการเลือกตั้งทั่วไปนัก เนื่องจากว่าไม่มีแรงจูงใจจากกลุ่มการเมืองที่คุ้นเคย ทำให้ประชาชนที่ไปทำงานต่างถิ่น ไม่ค่อยเดินทางกลับมาใช้สิทธิ์ เหลืออยู่แต่เพียงคนเฒ่าคนแก่ และคนที่ทำงานในพื้นที่เท่านั้น ซึ่งจากการสอบถามพบว่า ส่วนใหญ่จะได้รับการขอร้องจากหน่วยงานในอำเภอ หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ให้ช่วยออกมาใช้สิทธิ์กันเยอะๆ และจากการสอบถามชาวบ้านผู้ที่มาใช้สิทธิ์ ได้รับคำตอบเกือบ 100% ว่าไม่ได้อ่านร่างรัฐธรรมนูญ จึงไม่เข้าใจเนื้อหาที่แท้จริง เพียงแต่ส่วนใหญ่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง เพื่อให้ประเทศกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ดังนั้นสาระสำคัญในการออกเสียงประชามติครั้งนี้จึงสอดคล้องกับภาวะความเชื่อมั่นของนักลงทุน เพราะเมื่อวันศุกร์ที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา ตลาดหุ้นพุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้หากประชามติผ่าน ก็จะเป็นเรื่องสั้น และเป็นไปตามโรดแมปของ คสช. คือการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปีหน้า (2560) แต่ถ้าประชามติไม่ผ่าน ก็จะเป็นเรื่องยาว เพราะจะต้องเริ่มต้นร่างรัฐธรรมนูญกันใหม่ ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ก็ไม่เอาแล้ว และ ดร.วิษณุ เครืองาม ก็ออกมาประกาศแล้วว่าจะไม่เอาด้วยเหมือนกัน ดังนั้นจะหาใครมารับช่วงในการเป็นผู้นำร่างรัฐธรรมนูญต่อจึงเป็นเรื่องยาก อีกทั้งการร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ก็ใช้งบประมาณไปจำนวนมาก หากคิดรวมทั้งงบประมาณที่รัฐบาลใช้ในการดำเนินการร่างรัฐธรรมนูญ หน่วยงานภาครัฐต่างๆ ที่ออกสมทบด้วย ก็คิดเป็นเงินไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งหากมีการร่างใหม่อีกครั้งก็คงจะสูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมหาศาล โดยที่เรายังไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานอีกเท่าไรจึงจะร่างเสร็จอีกด้วย นายทวิสันต์ฯ กล่าว.
