สืบเนื่องจากเหตุการณ์ท่อส่งก๊าซของ บมจ.ปตท. ซึ่งวางแนวท่อส่งก๊าซใต้เสาส่งไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ได้เกิดระเบิดขึ้น มีเสียงดังต่อเนื่องหลายครั้ง เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (22 ตุลาคม) บริเวณด้านข้างโรงพัก สภ.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ก่อนจะมีเปลวเพลิง ซึ่งเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ลุกท่วมสูงนับร้อยเมตร พร้อมสะเก็ดเปลวไฟแผ่ปกคลุมออกไปไกลเป็นวงกว้างในรัศมีกว่า 500 เมตร พร้อมกันนั้นยังมีเศษท่อและดินโคลนจากแรงระเบิดปลิวลอยฟุ้งไปในอากาศ ทำให้เสาส่งไฟฟ้าแรงสูงขนาดใหญ่เสียหายไปจำนวน 1 ต้น สายระบบส่งกำลังไฟฟ้าขาด ร้านค้า บ้านเรือนชาวบ้านจำนวนเกือบ 20 หลังคาเรือน ได้รับความเสียหาย รถยนต์และรถจักรยานยนต์ถูกเพลิงลุกไหม้มากกว่า 50 คัน และทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ 2 ราย ได้รับบาดเจ็บ 26 คนนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลกระทบดังกล่าว ได้ครอบคลุมข้ามฝั่งคลองประเวศบุรีรมย์ มายังในเขตพื้นที่หมู่ 12 ต.คลองเปรง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างของทั้ง 2 จังหวัด จนทำให้ทางโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเปร็งวิสุทธาธิบดี และโรงเรียนสุเหร่าคลองใหญ่ ได้รีบปล่อยให้เด็กนักเรียนกลับบ้านไปในทันที ตั้งแต่เมื่อเวลา 14.00 น.
นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ รองผู้ว่าราชการ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเดินทางมาในที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบถึงความเสียหายและสาเหตุที่เกิดขึ้น แต่เบื้องต้นได้รับรายงานว่าพื้นที่ในบริเวณนี้เป็นเซฟตี้โซน ไม่มีทั้งก๊าซ รวมถึงไฟด้วย ขณะนี้ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์ในการเยียวยาช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนภายในบริเวณวัดเปร็งราษฎร์บำรุง ที่อยู่ใกล้ประมาณ 100 เมตรแล้ว
นายชัยพจน์กล่าวว่า มีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายอย่างหนักทั้งหลัง ประมาณ 4 หลังคาเรือน ส่วนหลังอื่นๆ ที่อยู่ห่างไกลออกไปนั้น ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย และยังมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ถูกไฟไหม้ รวมถึงสถานีตำรวจ สภ.เปร็ง
ด้าน พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ซึ่งเดินทางมายังในที่เกิดเหตุ กล่าวว่า รัศมีของเปลวเพลิงที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ข้างเคียงนั้น ไปไกลประมาณ 500 เมตร ส่วนรัศมีของกลิ่นก๊าซและควันไฟจะส่งผลกระทบไปไกลถึงกว่า 1 กม. เบื้องต้นมีข้อมูลยืนยันว่าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย ได้รับบาดเจ็บ 28 ราย
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากชาวบ้าน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ว่า ในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย โดยเป็นหญิงชราวัย 85 ปี ซึ่งมีบ้านเรือนใกล้เคียงที่เกิดเหตุหลังแรก ถูกแรงระเบิดจนตัวปลิวกระเด็นออกมาเสียชีวิตยังภายนอกตัวอาคารของบ้านพัก 1 ราย และมีหญิงชราที่ป่วยติดเตียงวัย 76 ปี เสียชีวิตอยู่ในบ้านพักหลังที่ 2 อีก 1 ราย
นอกจากนี้ ยังมีคนงานในแคมป์คนงานก่อสร้างหลวงชนบท ฉช.3001 (ฉะเชิงเทรา-อ่อนนุช) ไม่ทราบเพศและอายุ เสียชีวิตอีก 1 ราย อยู่ภายในแคมป์คนงาน
