จนท.รุดดูอาการ”ไอ้งาต่าง”ช้างป่าระยองถูกยิงขาบวม เพิ่งทำร้ายคนกรีดยางตาย 2 ราย

นาทีระทึก….ทสม.ระยองบุกพิสูจน์บันทึกภาพไอ้งาต่างกลางสวนปาล์มเชิงเขา เคยทำร้ายคนกรีดยางดับ 2 ราย

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมาคนกรีดยางถูกช้างป่าฉายาไอ้งาสั้นหรือไอ้งาต่าง ทำร้ายจนเสียชีวิตติดต่อกัน 2 ราย ในพื้นที่ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านจนไม่กล้าออกไปกรีดยาง เพราะไอ้งาต่างยังคงออกหากินพืชไร่ในสวนเกษตรของชาวบ้าน ล่าสุดชาวบ้านกว่า 300 คนเดินทางไปยื่นหนังสือที่หน้าอำเภอวังจันทร์ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ เคลื่อนย้ายไอ้งาต่างไปอยู่ในเขตอนุรักษ์ฯ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ยิงยาซึมไอ้งาต่างเพื่อดำเนินการเคลื่อนย้ายไอ้งาต่างออกนอกพื้นที่ แต่ไอ้งาต่าง มีอาการบาดเจ็บที่ขาหน้าข้างขวา นายสัตวแพทย์ได้เดินทางมารักษาอาการบาดเจ็บให้หายเป็นปกติก่อนเคลื่อนย้าย

นายสุรินทร์ สินรัตน์ ประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน(ทสม.)จ.ระยองกล่าวว่าเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมด้วยนายจรัญ แก้วมณี เครือข่ายทสม. เดินทางเข้าไปในสวนปาล์ม ใกล้เชิงเขา พื้นที่ หมู่ 3 ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง เพื่อจะเข้าไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าไอ้งาต่าง มีนิสัยดุร้ายจริงหรือไม่ตามที่ชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์ถึงความดุร้าย ขณะที่เดินเข้าไปในสวนปาล์ม 200 เมตร ก็ได้กลิ่นสาปช้าง กลิ่นปัสสาวะและรอยเท้าช้าง เดินต่อเข้าไปอีก 20 เมตรเห็นไอ้งาต่างยืนหันหลังห่างออกไปเพียง 20 กว่าเมตรเท่านั้น จึงเข้าไปหลบบริเวณหลังต้นปาล์ม จากนั้นได้เรียกไอ้งาต่างว่า พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ ผมมาดีนะ มาขอดูขาที่บาดเจ็บหน่อยเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บข้างไหน ข้างขวาหรือข้างซ้าย ขอดูขาหน่อยครับจะเอาหมอมารักษา ผมมาดีครับพร้อมนำโทรศัพท์บันทึกภาพ

ส่วนนายจรัญ ยืนดูอยู่ข้างหลังก็บันทึกภาพวิดีโอ ขณะที่ ไอ้งาต่างค่อยๆหมุนตัวหันหน้ามาช้าๆ ค่อยๆยกขาหน้าข้างขวาที่บาดเจ็บให้ดู แล้วยืนมองพร้อมกระดิกใบหู จากนั้นก็ค่อยๆย่อตัวลงนั่งและนอนลง ขณะที่เจ้าหน้าที่อนุรักษ์พร้อมทีมสัตวแพทย์เดินทางเข้ามาพอดี พร้อมเรียกให้ออกมาห่างๆมันอันตราย จึงบันทึกวิดีโอช่วงไอ้งาต่างขณะกำลังยกขาที่บาดเจ็บไม่ได้ ได้แต่ภาพนิ่ง นายสุรินทร์ กล่าวว่าช่วงที่กำลังบันทึกภาพเป็นเวลานาน 2 นาที ไอ้งาต่างก็ไม่มีอาการดุร้ายแต่อย่างใด

นายสุรินทร์ เล่าเหตุการณ์ต่อว่าอาการบาดเจ็บที่ขาหน้าข้างขวาบวมเปล่ง กว่าขาข้างอื่นอย่างเห็นได้ชัด ขาที่บาดเจ็บยืนแตะพื้นไม่ได้แสดงกว่าเจ็บแผลข้างใน ได้แต่งอขายกขึ้นตลอดเวลา สังเกตขาที่บวมปูดเป็นเป็นปุ่มๆมองเห็นได้ชัด 5-6 จุด สันนิษฐานเบื้องต้นคล้ายถูกกระสุนปืนลูกซองหรือปืนผูกกระสุนฝังใน ระดับหัวเข่า สำหรับกรณีที่มีชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์กันว่ามีการนำช้างบ้านมาปล่อยไว้ในป่า เข้ามาทำลายพืชสวนเกษตรของชาวบ้านนั้น กรณีนี้ไม่น่าที่จะเป็นไปได้ สาเหตุเพราะช้างบ้านที่ถูกฝึกเลี้ยงมานานจนเชื่องแล้ว มีราคาตัวละหลายแสนบาทถึงหลักล้านบาทแล้วจะเอามาปล่อยในป่าจึงไม่น่าที่จะเป็นไปได้ เรื่องนี้เป็นความเห็นส่วนตัว

Advertisement

นายสุรินทร์ กล่าวว่า โดยธรรมชาติของช้างป่าถ้าไม่มีอาการตกมัน ไม่หวงฝูงตัวเมียเขาจะไม่ดุร้าย นอกจากเคยถูกลอบยิง ถูกปะทัดขับไล่หรือโดนปืนผูกลักษณะแบบนี้ช้างก็จะจำเหตุที่ถูกคนกระทำ เวลาช้างป่าเจอคนก็จะเกิดความระแวงว่าคนจะทำอันตรายเขา ที่เขาพูดกันว่าช้างดุร้ายก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรเขาไว้หรือเปล่า อย่างเช่นที่ผมเข้าไปเจอและพูดกับไอ้งาต่าง ที่ใครๆว่าเขาดุร้ายนั้น ทำไมไม่เห็นเขาดุร้าย เขาฟังรู้เรื่อง พูดกับเขาดีๆว่าเจ็บขาข้างไหน เขายังยกขาให้ดู แต่ถ้าเขาดุร้าย ผมเข้าไปใกล้ 20 กว่าเมตรบันทึกภาพคงโดนทำร้ายไปแล้ว แต่ก็ไม่เห็นมีอาการดุร้าย กลับกระดิกหูแล้วค่อยๆนั่งลงนอนนายสุรินทร์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image