สวนยางใต้ เริ่มเฮ ราคาน้ำยางสดพุ่งสูงสุดรอบ 3 ปี

ยางภาคใต้ราคาพุ่ง น้ำยางสดสูงสุดในรอบ 3 ปี 6 เดือนแตะ 68.50 บาทขาดตลาดแย่งซื้อล่วงหน้า ดันราคาในสวน 61-62 บาท

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเปิดตลาดประมูลซื้อขายยางพาราวันแรกของสัปดาห์ที่ตลาดกลางยางพารา 3 ตลาดหลักในภาคใต้ (สงขลา , สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช) ปรากฏว่า ราคาซื้อขายดีมาก เนื่องจากผลผลิตมีราคาขึ้นหมดทุกตัวเมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 22 ต.ค.63 น้ำยาง ปรับขึ้น 4.50 บาท ยางก้อนถ้วย ปรับขึ้น 2.00 บาท ยางแผ่นดิบ ปรับขึ้น 0.89 บาท ยางแผ่นรมควัน 3 ชั้น ปรับขึ้น 1.25 บาท โดยเฉพาะน้ำยางสดราคาเป็นที่ฮือฮาของพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางอย่างมาก ราคาน้ำยาง ณ โรงงาน(เฉลี่ย) ที่หาดใหญ่ 65.50 บาท/กิโลกรัม เพิ่มจากวันก่อนขึ้น 4.50 บาท

ทั้งนี้ ช่วงบ่ายราคาซื้อขายล่วงหน้าโดยวิธีตกลงราคา โดยการยางแห่งประเทศไทย(กยท.) ปรากฏว่า ราคาที่ตลาดกลางยางสงขลา ได้ขยับตัวขึ้นอีกเป็น 68.50 บาท/กิโลกรัม และตลาดกลางสุราษฎร์ธานี 66.75 บาท/กิโลกรัม ถือเป็นราคาสูงสุดในรอบหลายปี ขณะที่ราคารับซื้อในท้องถิ่นอยู่ทะลุ 61-62 บาท/กิโลกรัม ซึ่งชาวสวนยางพอใจมากได้นำใบราคาขายน้ำยางสด(ตั๋ว)มาโพสต์ทางโซเชียลแจ้งราคาแต่ละพื้นที่กันอย่างคึกคัก

ข่าวแจ้งว่า ส่วนราคายางแผ่นดิบคุณภาพดีที่ตลาดกลางสุราษฎร์ธานี ได้ราคาสูงสุดกิโลกรัมละ 67.50 บาท ราคาเพิ่มขึ้น 6.90 บาทนครศรีธรรมราชและสงขลากิโลกรัมละ 66.99 บาทเท่ากัน เพิ่มขึ้น 6.39 บาท และยางแผ่นรมควันปิดตลาดสูงสุดที่ตลาดกลางสงขลา อยู่ที่ กิโลกรัมละ 72.50 บาท ส่วนตลาดกลางนครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ราคากิโลกรัมละ 72.30 บาทและ 72.26 บาท

เจ้าหน้าที่การยางแห่งประเทศไทยสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ราคาน้ำยางสดเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปี 6 เดือน เนื่องจากปริมาณยางออกสู่ตลาดลดลงจากสภาพในภาคใต้มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และจะมีพายุลูกใหม่ก่อตัววันที่ 26 – 30 ต.ค.นี้ จะเป็นอุปสรรคต่อการกรีดยาง และผู้ประกอบการภายในประเทศมีความต้องการยางมากขึ้น ซึ่งจะช่วยดันราคาซื้อขายหน้าโรงงานและในตลาดท้องถิ่นให้ขึ้นตาม

Advertisement

ด้านนายสุนทร รักษ์รงค์ เลขาธิการสภาเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย(สคยท.) ได้โพสต์แถลงการณ์ ฉบับที่ 1/2563 สภาเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ระบุว่า ด้วยสถานการณ์ด้านยางพาราในขณะนี้ แม้ราคายางจะขยับตัวสูงขึ้นด้วยเหตุปัจจัยต่างๆ แต่ก็ยังไม่แตะถึงราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง แต่จากสาเหตุฝนตกหนักทั่วทุกภูมิภาค ทำให้กรีดยางไม่ได้ รวมทั้งเกิดโรคใบร่วงระบาดไปทั่วทั้งภาคใต้ และอาจลุกลามไปภาคอื่น จนทำให้ผลผลิตยางลดลง ยิ่งซ้ำเติมความเดือดร้อน ให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง หลายคนไม่มีแม้ข้าวสารจะกรอกหม้อ ลูกหลานต้องขาดเรียน เพราะไม่มีรายได้

ดังนั้นทางสภาเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย จึงมีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ดังต่อไปนี้

1.ให้คณะรัฐมนตรีเร่งอนุมัติโครงการประกันรายได้ ระยะที่ 2 ภายในเดือนตุลาคมนี้

Advertisement

2.รัฐบาลต้องประกาศให้พื้นที่ภาคใต้เป็นเขตภัยพิบัติ จากโรคใบร่วงในยางพารา และบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับการยางแห่งประเทศไทย อีกทั้งการประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ จะทำให้ชาวสวนยางมีโอกาสได้รับความช่วยเหลือและเยียวยาจากรัฐบาล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

3.พี่น้องชาวสวนยางทั้งที่มีเอกสารสิทธิ์และไม่มีเอกสารสิทธิ์ ต้องแจ้งการเกิดโรคใบร่วงต่อการยางแห่งประเทศไทยโดยด่วน เพื่อให้ กยท.ได้มีข้อมูลที่ถูกต้องในการแก้ไขปัญหา และการสำรวจความเสียหายจะทำให้มีข้อมูลของผู้ที่ได้รับผลกระทบ หากมีการเยียวยาจากรัฐบาลจะสามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงที

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image