โป๊ะแตก ปกครองทับสะแกจับแก๊งต่างด้าวค้าวัวเถื่อนคาคอกแถมเจอใบกระท่อมผง ป้องกันจังหวัดข้องใจของกลางหายทำบันทึกจับกุมหลวมส่อช่วยนายทุน
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน จ่าเอกแก้ว คงวงศ์ ป้องกันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า สั่งการให้นายกิตติรัตน์ ส้มแป้น เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันจังหวัดประสานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ทับสะแก แจ้งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยาง อ.ทับสะแก แก้ไขบันทึกจับกุมให้ตรงกับข้อเท็จจริง หลังจากรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบ แต่ต่อมาพบว่าข้อมูลในบันทึกจับกุมมีความคลาดเคลื่อน หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารชุดจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เข้าตรวจสอบฟาร์มปศุสัตว์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในสวนมะพร้าวพื้นที่หมู่ 10 ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก เนื่องจากสืบทราบว่ามีการลักลอบนำเข้าโคและกระบือเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน ให้ที่พักพิงกับบุคคลต่างด้าวหลายราย
“ รายงานการตรวจค้นแจ้งว่า ขณะตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายโดยโค 73 ตัว และกระบือ 76 ตัว มีการซื้อขายภายในประเทศได้รับอนุญาตจากสำนักงานปศุสัตว์ พร้อมแจ้งว่าบุคคลต่างด้าว 2 รายมีใบอนุญาตทำงาน ขณะที่มีภาพถ่ายขณะการตรวจค้นพบว่ามีแรงงานต่างด้าว 7 ราย พบใบกระท่อมผง 55 ถุง เงินสดเกือบ 1 หมื่นบาทโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง อุปกรณ์ยังชีพ แต่เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอทับสะแกไม่รายงานในบันทึกการจับกุม “ จ่าเอกแก้ว กล่าว
จ่าเอกแก้ว กล่าวว่า สำหรับบุคคลต่างด้าวระหว่างตรวจค้นหลบหนีไปได้ 3 ราย แต่จับกุมได้ 7 ราย เจ้าหน้าที่อ้างว่าพบ 3 รายตรวจแล้วมีไข้สูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส เพื่อรีบผลักดันออกนอกประเทศเพราะกลัวสารภาพถึงนายทุนเบื้องหลัง ส่วนที่เหลือให้การรับสารภาพว่าหลบหนีเข้าเมือง เดินเข้าประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติจากเมียนมาใช้เวลานานกว่า 10 วัน ผ่านช่องเจ็ดเจ้า บ้านหนองมะค่า ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก เพื่อต้อนโคและกระบือเถื่อนเข้ามาจำหน่ายให้นายทุนผู้กว้างขวางรายหนึ่งใน อ.ทับสะแกที่มีประวัติค้าวัวเถื่อนในพื้นที่นานกว่า 40 ปี โดยมีอดีตผู้นำท้องที่บางรายใน ต.ห้วยยางเป็นนายหน้า
จากนั้นนำเข้ามาพักที่ฟาร์มปศุสัตว์ดังกล่าว ล่าสุดพบว่าที่โค และกระบือทั้งหมดไม่ผ่านการตรวจโรค จึงขอให้ฝ่ายปกครองอำเภอทับสะแกชี้แจงเหตุผลการให้ถ้อยคำกับพนักงานสอบสวนที่มีความคลาดเคลื่อนว่ามีเจตนาอย่างไร หลังจากในบันทึกมีการระบุบ้านเลขที่ที่เข้าตรวจค้นอย่างชัดเจน ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดให้นโยบายจับกุมบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองในสถานการณ์โควิด 19 อย่างเข้มงวดทุกอำเภอ แต่ยังมีเจ้าหน้าที่ของรัฐบางพื้นที่ยังแอบรับผลประโยชน์จากวงจรธุรกิจเถื่อนเป็นปกติ
ด้าน นายปรีดา สุขใจ นายอำเภอทับสะแก กล่าวว่า จากการตรวจสอบไม่พบโคและกระบือ แต่มีบุคคลต่างด้าวโดยไม่มีใบอนุญาตเข้าเมือง สำหรับใบกระท่อมผงอยู่ระหว่างการตรวจสอบของกลางที่พบทั้งหมด แต่ยอมรับว่ายังไม่สามารถระบุได้ว่าพื้นที่เกิดเหตุมีผู้ใดครอบครอง