ลูกเขยทาสยาโมโหแม่ยายซ่อนกัญชา ใช้ปืนไทยประดิษฐ์ยิงข้างหลัง ขณะเตรียมเจียวไข่ทำกับข้าว ก่อนคว้าปังตอฟันหัวซ้ำดับอนาถภายในห้องครัว
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน เวลา 00.05 น. พ.ต.ท.ประสงค์ วงษ์สิน สารวัตรเวร สภ.กระนวน จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งว่า มีเหตุลูกเขยฆ่าแม่ยายที่บ้านประชาชื่น ต.หนองโน อ.กระนวน จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ขจรฤทธิ์ วงราช ผกก.ทราบ พร้อมประสานงานยังแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระยุพราชกระนวนและกองพิสูจน์หลักฐานที่ 4 ขอนแก่น เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบมีชาวบ้านกำลังมุงดูและเล่าถึงเหตุการณ์สะเทือนขวัญอยู่หน้าบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ เลขที่ 5 หมู่ 7 ต.หนองโน อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
ภายในห้องครัวพบร่างของนางคำเบา เอกตาแสง อายุ 65 ปี นุ่งผ้าถุงสวมเสื้อลายดอกสภาพศพนอนหงาย ศีรษะถูกของมีคมฟันจนกะโหลกศีรษะแยกออกจากกัน เลือดนองพื้น พบร่องรอยถูกกระสวนปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ด้านหลัง ใกล้กันนั้นมีไข่ไก่ที่เตรียมจะเจียวตกอยู่ที่พื้น ส่วนผู้ที่ลงมือทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายทราบว่าเป็นลูกเขยชื่อนายนิรันด์ พาพันธุ์ อายุ 36 ปี ซึ่งได้หลบหนีขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเกลี้ยกล่อมร่วม 20 นาที จึงลงมามอบตัว
สอบสวนนายนิรันด์ให้การว่า ตนเองเป็นบุตรเขย ก่อนเกิดเหตุได้ดื่มเหล้าขาวและเสพยาบ้ามา 1 เม็ด เมื่อกลับมาเข้าบ้าน กะว่าจะหากัญชาที่เตรียมไว้เสพปิดท้าย แต่เมื่อเข้าไปหากัญชาที่เก็บไว้ภายในบ้านไม่เจอ จึงได้สอบถามแม่ยาย ซึ่งแม่ยายก็มีอาการหลงๆ ลืมๆ เนื่องจากมีโรคประจำตัวคืออัลไซเมอร์ ด้วยความโมโหจึงได้หยิบปืนไทยประดิษฐ์เดินเข้าไปยิงเข้าข้างหลัง จนแม่ยายซึ่งกำลังจะเจียวไข่ให้ลูกๆ ล้มลง ก่อนที่จะคว้ามีดปังตอฟันซ้ำ แล้วหลบหนีขึ้นไปอยู่ชั้นบน
จากนั้นพนักงานสอบสวนได้เก็บหลักฐานคือปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก มีดปังตอ 1 เล่ม ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ที่ สภ.กระนวน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนร่างของผู้เสียชีวิตหลังจากแพทย์ได้ทำการชันสูตรแล้วจึงได้นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านที่เกิดเหตุต่อไป
