เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน นายเดโช พุ่มมี อายุ 42 ปี ชาว ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เข้าร้องเรียนสื่อมวลชน หลังน้องชายถูกรุมทำร้ายร่างกายหน้าผับชื่อดัง บริเวณถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.พิษณุโลก หวั่นว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะตอนนี้อาการน้องสาหัส มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ มีอาการเลือดคั่งในสมอง ต้องผ่าตัดและยังไม่รู้สึกตัว นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช
นายเดโชกล่าวว่า น้องชายของตนคือนายนพดล พุ่มมี อายุ 38 ปี ชาว ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก มีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง วันเกิดเหตุคือวันพุธที่ 11 พฤศจิกายน 2563 น้องชายได้แจ้งว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนรวม 5 คน ที่ผับชื่อดังบนถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก จนกระทั่งช่วงประมาณตี 1 เพื่อนน้องได้โทรมาบอกว่าน้องชายถูกการ์ดรุมทำร้ายร่างกายบริเวณหน้าผับ อาการสาหัส ตนจึงรีบตามไปที่ รพ.พุทธชินราชพิษณุโลก พบว่าน้องมีอาการสาหัส สมองบวม มีเลือดคั่งในสมองต้องทำการผ่าตัดด่วน จากนั้นตนรีบไปโรงพักเพื่อแจ้งความแต่เจ้าหน้าที่ยังไม่รับแจ้ง ให้เพียงใบนำส่งผู้บาดเจ็บให้กับทางโรงพยาบาลรักษาตัวเท่านั้น ตนเองและเพื่อนของน้องต้องย้อนไปที่เกิดเหตุเพื่อถ่ายภาพสถานที่เกิดเหตุ เพราะมีเพียงสายตรวจเข้าไปตรวจเท่านั้น กล้องวงจรปิดก็ไม่สามารถขอมาได้ ตนจึงกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาร้องสื่อในวันนี้
ด้านนายหนึ่ง (นามสมมุติ) พร้อมด้วยนายสอง (นามสมมุติ) และนายสาม (นามสมมุติ) เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุเข้าไปเที่ยวผับกัน 5 คน (รวมคนเจ็บด้วย) ตั้งแต่ช่วง 3 ทุ่ม จนกระทั่งผับปิดเดินออกมาจากผับกัน โดยนายหนึ่ง (นามสมมุติ) ได้เอ่ยปากแซวสาวอีกกลุ่มหนึ่ง จนทำให้วัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งไม่พอใจ และได้ลงไม้ลงมือต่อยกัน ระหว่างนั้นมีการ์ดของผับประมาณ 5-6 คนมาร่วมวงด้วย ตนพร้อมเพื่อนโดนการ์ดรุมทำร้ายไม่รู้ใครเป็นใคร ส่วนตัวนายนพดล ผู้บาดเจ็บ เห็นว่าตนถูกรุมทำร้ายก็เข้ามาห้าม กระทั่งเรื่องสงบลงทุกคนแยกย้าย ตนก็เห็นนายนพดลนอนไม่รู้สึกตัว มีเลือดไหลนองที่พื้น ปลุกไม่ตื่น จึงเรียกกู้ภัยฝั่งตรงข้ามรีบพาส่งโรงพยาบาล และไม่มีใครยอมรับว่าใครเป็นคนทำร้ายนายนพดล บอกแค่เพียงว่านายนพดลล้มเอง แต่ตนและเพื่อนเห็นว่าการ์ดเป็นคนรุมทำร้าย จึงมาร้องขอความเป็นธรรมให้กับเพื่อนในวันนี้
ขณะที่นายเดโชกล่าวว่า ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ตนยังไม่ได้รับการติดต่อจากใครเลย ที่เกิดเหตุก็ไม่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไปขอกล้องวงจรปิด ได้ยินเพียงตำรวจพูดว่าป่านนี้ภาพกล้องคงลบไปแล้วเท่านั้น ตนสงสารน้องมาก อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งความและหาตัวคนผิดที่ทำร้ายน้องตนมาลงโทษให้ได้ เพราะลำพังถ้าน้องมีเรื่องชกต่อยกันธรรมดา ตามประสาวัยรุ่น ตนก็ไม่ถือสา แต่นี่มันพยายามฆ่ากันชัดๆ แล้วน้องของตนก็อาการหนัก ผ่าตัดสมองแล้วก็ยังไม่รู้สึกตัว ตนสงสารน้องมากจึงมาขอความเป็นธรรมในวันนี้
ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า วันเกิดเหตุประมาณตี 4 ทางพี่ชายได้มาแจ้งความและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไปเรียบร้อยแล้ว แต่ด้วยวันเกิดเหตุต้องเร่งส่งตัวคนเจ็บเข้าทำการรักษาอาการบาดเจ็บก่อน และรอใบชันสูตรจากทีมแพทย์ว่าอาการนั้นเป็นอย่างไร บาดเจ็บขนาดไหน ที่ใดบ้าง ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ได้ส่งชุดสืบลงพื้นที่แล้ว ขอเวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานก่อน และจะได้มีการนัดสอบพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุอีก 3 คน เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม คาดว่าน่าจะหาตัวคนก่อเหตุมาลงโทษได้ในไม่ช้า
