เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน นายเอกพันธุ์ คุปตวัช นายกเทศมนตรีนครนครปฐม เล็งเห็นความสำคัญกับเรื่องภัยของโลกโซเชียลกับกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางของสังคม จึงได้ทำโครงการ “วัยรุ่นปลอดภัยเข้าใจโซเชียล” เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้เด็กและเยาวชนในกลุ่มของสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครนครปฐมในการใช้สื่อโซเชียลได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เพราะเราตระหนักดีว่า เด็กเยาวชนในการดูแลของเราต้องได้รับการฝึกฝน อบรมเรียนรู้ให้ทันต่อโลกแห่งความเป็นจริง มีนายณัฏฐพัชญ์ ทรัพย์แย้ม ประธานสภาเด็กและเยาวชนเทศบาลนครนครปฐม พร้อมเด็ก เยาวชนเทศบาลนครนครปฐม เป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่ห้องประชุมลีลาวดี โรงเรียนทวารวดี
นายเอกพันธุ์ กล่าวว่า การใช้โซเชียลมีความจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นเฟสบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือแม้กระทั่งในไลน์ ก็ตามเป็นโลกเสมือนจริงคนเรามีโลก 2 ใบ คือโลกใบที่ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม หรือโลกที่สังคมไม่ยอมรับ และโลกใบที่สองคือโลกเสมือนความเป็นจริง ไม่ใช่โลกจริง คือพยายามทำให้ผู้อื่นยอมรับ เป็นที่รู้จักต่อสังคม ในการแสดงออกจากสิ่งต่างๆ ด้วยการอวด โชว์สิ่งของ รถ บ้าน ทรัพย์สินต่างๆ เพื่อให้สังคมเห็นเพื่อการยอมรับ เรียกโลกเสมือนจริง ทางกลับกัน เราต้องเผชิญ และตั้งอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริงให้ได้ มากกว่าอยู่ในโลกเสมือนจริง ต้องเรียนรู้ความเป็นจริง เจ็บจริงในเรื่องที่ประสบ แก้ไข ผ่านสภาวะวิกฤติของสังคมด้วยตนเอง ล้มลุกคลุกคลาน เป็นประสบการณ์แก่ชีวิต บางเรื่องเราอาจจะไปสร้างความเสียหาย สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจแก่ผู้อื่น เหล่านี้สำคัญมาก เทศบาลนครนครปฐม ตระหนักเรื่องนี้มาก เพราะทุกวันนี้สภาวะสังคมพึ่งพาสื่ออิเล็กทรอนิกส์มากจนน่ากลัว และสื่อประเภทนี้มาเร็ว ไปเร็ว กระจายไปกว้างขวางหากไม่ได้รับการคัดกรอง
“ปัจุจุบัน เราจะพบว่า สังคมอยู่กันแบบโลกเสมือนจริง ด้วยการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆเป็นตัวผลักดัน ให้ตนเองดูดี แต่เมื่อได้รู้จักกันแล้ว ได้เห็นธาตุแท้ตัวจริงแล้วไม่เป็นอย่างที่ปรากฎในสื่อโซเชียล และคนเหล่านี้พยายามทำทุกสิ่งอย่าง เพื่อรู้ว่าเราต้องการอะไร ชอบอะไรแล้วเข้ามาหาประโยชน์จากเรา
ขณะเดียวกันมันก็จะมีภัยแฝงเข้ามา อาทิ การใช้เฟสบุ๊กของสังคมเสมือนจริง ทำอะไรก็ต้องลงสื่อเช็คอิน เสมือนเรากำลังเปิดประตูบ้านให้โจร เข้ามมาโจรกรรมเข้ามาทำร้ายเราได้อย่างถึงตัว แต่บนความไม่ดี ก็ยังมีสิ่งที่ดีๆหากแต่เรารู้จักนำไปใช้ และต้องยอมรับเด็กและเยาวชนสมัยนี้เขาเก่ง สามารถสร้างทักษะได้ด้วยการใช้สื่อในการทำธุรกิจ สร้างรายได้ใช้เสื่อในการช่วยเหลือ เกื้อกูลกัน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม มีทั้งดี และเสีย มีทั้งบวก และลบ” นายเอกพันธุ์ กล่าว
