วันที่ 10 สิงหาคม 2559 นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้สัมภาษณ์หลังปิดการประชุมศูนย์ฯว่า รีสอร์ตที่ถูกสั่งถอนขณะนี้แม้จะครบกำหนด 30 วันแล้วก็ตาม แต่จะมีหนังสือแจ้งให้โอกาสเพื่อให้รื้อถอนเองอีกครั้ง โดยให้เวลาอีก 7 วันหลังมีการปิดประกาศคำสั่ง โดยจะเริ่มไล่ปิดประกาศแจ้งรีสอร์ตที่เหลืออีก 17 รายตั้งแต่วันพรุ่งนี้(11 สค.)เป็นต้นไป หลังครบกำหนดในวันที่ 18 สิงหาคม หากยังไม่รื้อถอนเอง ทางคณะเจ้าหน้าที่ก็จะเริ่มดำเนินการรื้อถอนให้ เมื่อเสร็จสิ้นก็จะมีการส่งบิลเรียกค่าใช้จ่ายตามไปในภายหลัง
“ในวันที่ 18 สิงหาคมมาตรการที่จะทำพร้อมๆกันคือการถอดปลั๊กตัดกระแสไฟฟ้าก่อน จากนั้นก็จะเริ่มไล่ลงมือรื้อถอนรีสอร์ตที่ถูกจับกุมและศาลมีคำตัดสินในรายแรกๆก่อน ซึ่งคงต้องเวลาพอสมควร เนื่องจากสิ่งปลูกสร้างหลายอาคารมีโครงสร้างเป็นคอนกรีตและมีอาคารเล็กใหญ่ค่อนข้างมาก ประกอบกับเป็นพื้นที่ภูเขาสูงการเคลื่อนย้ายเครื่องจักรกลเข้าพื้นที่ทำได้ลำบาก จึงจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรและคงทยอยดำเนินการไปเรื่อยๆ”นายบัณฑิตย์ กล่าว
นายบัณฑิตย์ตอบข้อถามถึงการประเมินสถานการณ์จะมีต่อต้านขัดขวางเจ้าหน้าที่หรือไม่ว่า รีสอร์ตทั้ง 19 รายที่ถูกสั่งรื้อรู้อยู่แก่ใจว่าเหตุใดว่าต้องถูกรื้อถอนเพราะมีการกระทำผิดกฎหมายและศาลได้มีคำพิพากษาให้ออกจากพื้นที่เป็นเวลาหลายปีแล้ว ซึ่งไม่เพียงเพิกเฉยแต่ยังขยายกิจการเพิ่มมากมายหลายเท่าตัว จึงเป็นที่มาของการจัดระเบียบภูทับเบิก
ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ตอบข้อถึงเครื่องจักรกลสำหรับรื้อถอนจะขอสนับสนุนจากหน่วยราชการหรือมุ่งใช้ของภาคเอกชนเป็นหลักว่า ตรงนี้ได้ให้คณะกรรมการฝ่ายรื้อถอนซึ่งมีผู้อำนวยการสำนักจัดทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 พิษณุโลกเป็นหัวหน้าทีม เป็นฝ่ายพิจารณาดำเนินการ ส่วนกำลังคนคงต้องมากพอสมควร เพราะลักษณะพื้นที่รวมทั้งโครงสร้างสิ่งปลูกสร้าง คงต้องใช้กำลังคน 200-300 คนขึ้นไป
“ไม่หนักใจสำหรับปฎิบัติการรื้อถอนที่จะเริ่มในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ เพราะพี่น้องชาวภูทับเบิกเข้าใจสภาพปัญหาดี การทำงานของเจ้าหน้าที่ทำภายใต้ระเบียบข้อกฎหมาย ก็หวังใจว่าทุกคนคงให้ความร่วมมือในการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพราะเราเองก็พยายามทำโดยละมุนละม่อม มีการสื่อสารและให้ระยะเวลามาโดยตลอด”นายบัณฑิตย์ กล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
