ลงสำรวจแนวเขตที่รอยต่อพิพาทชาวราไวย์-นายทุน หาแนวโน้มสร้างทางสาธารณะ

(3 ก.พ.59) เมื่อเวลา 15.00 น. บริเวณพื้นที่รอยต่อที่ดินซึ่งมีข้อพิพาทระหว่างกลุ่มชาวไทยใหม่ราไวย์ (ชาวเล) กับ บริษัท บารอน เวิลด์ เทรด จำกัด ต.ราไวย์ อ.เมือง จ. ภูเก็ต นายประเจียด อักษรธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเอกสารสิทธิ์และการได้มา ซึ่งที่ดินของบริษัทบารอน เวิลด์ เทรด จำกัด พร้อมด้วย คณะกรรมการ ประกอบด้วย นายวัชรินทร์ เจตนาวณิชย์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ นายสิน พลรบ กำนันตำบลราไวย์ ตัวแทนนายอำเภอเมืองภูเก็ต หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการที่ดิน สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่กรณีขอพิพาทระหว่างชาวไทยใหม่กับ บริษัท บารอน เวิลด์ เทรด จำกัด เพื่อทำการรังวัดแนวเขตที่ดินซึ่งเป็นที่สาธารณะกับแนวเขตที่ดินของบริษัทบา รอนฯ  รวมทั้งพื้นที่ที่มีการตั้งโต๊ะบาลัยซึ่งเป็นที่ประกอบพิธีกรรมของชาวไทย ใหม่ราไวย์ โดยมีนายสนิท แซ่ซัว นายนิรันดร์ หยังปาน ตลอดจนตัวแทนชาวไทย ร่วมทำการรังแนวเขตดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่ทัพเรือภาคที่ 3 คอยดูแลรักษาความเรียบร้อย

โดยก่อนที่จะทำการรังวัด นายประเจียด ได้ชี้แจงเหตุผลของการลงพื้นที่ ว่า สืบเนื่องจากการประชุมเพื่อแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างชาวไทยใหม่ราไวย์ กับ บริษัทบารอนฯ หลังเกิดเหตุปะทะกันเมื่อวันที่ 27 มกราคม2559 ที่ผ่านมา มีผู้บาดเจ็บหลายราย เนื่องจายังไม่ได้ข้อยุติ ที่ประชุมจึงได้มีมติให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ เอกสารสิทธิ์และการได้มาซึ่งที่ดินของบริษัท บารอนฯ ซึ่งมีหลักฐานเป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 12592 และ 2616 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยให้มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบโฉนดที่ดินที่พิพาทออกมาโดยหลักฐานใด และได้ออกมาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อย่างไร เสร็จแล้วสรุปข้อเท็จจริงรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดทราบภายใน 7 วัน

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำการรังวัดจากหลักมุดเริ่มต้นบริเวณใต้ต้นมะขาม และจากแนวเขื่อนกันคลื่นเข้ามาจนถึงแนวหลักมุดของบริษัทฯ พบว่า จะมีพื้นที่ช่องช่วงกว้างที่สุด 3.30 เมตร และ แคบสุด 1.20 เมตร นอกจากนี้ ยังมีการวัดพื้นที่ในส่วนของที่ตั้งโต๊ะบาลัยด้วย เพื่อนำมาใช้ประกอบการจัดทำแผนผังพื้นที่  โดยในระหว่างนั้นมีชาวบ้านบางส่วนแสดงอาการไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากมีความเข้าใจผิดว่าจะเป็นการรังวัดพื้นที่เพื่อสรุปพื้นที่ เพราะจากความกว้างของพื้นที่สาธารณะที่ได้นั้นชาวบ้านระบุว่าไม่เพียงพอในการใช้สำหรับสัญจรไปมา พื้นที่ในการประกอบพิธีกรรม รวมทั้งพื้นที่ในการซ่อมแซมอุปกรณ์ทำประมงและเรือ เพราะขนาดพื้นที่ดังกล่าวเล็กมาก และจะมีปัญหาในช่วงที่มีมรสุมพัดเข้ามาหาฝั่ง

ทั้งนี้ ภายหลังจากการรังวัดเสร็จในเบื้องต้น นายประเจียดได้ชี้แจงกับทางชาวไทยใหม่อีกครั้งว่า สำหรับกาสรรังวัดดังกล่าวนั้นยังไม่ได้มีการสรุปแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการที่จะมารังวัดเพื่อให้ทราบขอบเขต เพื่อนำไปประกอบการพิจารณา รวมถึงพื้นที่ที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมด้วย โดยจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน จากนั้นก็จะได้เสนอต่อทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อพิจารณาต่อไป 

Advertisement

ด้านนายสนิท แซ่ซั่ว ตัวแทนชาวเลฯกล่าวว่า หลังจากมีการแถลงผลการประชุม นั้นถึงแม้จะยังไม่เห็นด้วยกับบางอย่างที่บริษัทบารอนเสนอเช่นการย้ายที่ตั้งศาลบาลัย ยืนยันจะขอให้อยู่ตรงที่เดิม แต่ก็ยังอยู่ระหว่างการสำรวจยังไม่มีการตกลง  และขณะนี้จังหวัดมีแนวทางสำรวจทางสาธารณะกว้าง 3.30 เมตรเพื่อให้ชาวเลฯได้ใช้ ก็เป็นที่น่าพอใจระดับนึง ส่วนเรื่องที่จะมีการร้องศาลปกครองขอคุ้มครองนั้น ยังไม่มีความคิดเนื่องจากรอการประชุมภายในและรอดูการดำเนินการของคณะทำงานจังหวัดอีกครั้งหนึ่ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image