สืบเนื่องจากอุบัติเหตุบนถนนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา ช่วงเย็นวานนี้ (2 ธันวาคม) เป็นอุบัติเหตุระหว่างรถเก๋งกับรถกระบะสีขาว ซึ่งมีคนถ่ายคลิปหลังเกิดเหตุเอาไว้ ก่อนนำไปเผยแพร่ในโลกโซเชียล โดยระบุว่า รถเก๋งสีขาว ซึ่งมีผู้ขับขี่เป็นข้าราชการชาย สำนักงานเกษตรอำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา ได้ขับข้ามเลนเข้ามาชนประสานงากับรถกระบะที่สวนทางมา ทำให้ผู้หญิง ซึ่งเป็นคนขับกระบะ และเด็กหญิง ซึ่งเป็นหลานสาวที่โดยสารมาด้วย ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ชายขับเก๋งคู่กรณีมีท่าทางคล้ายมีอาการมึนเมา ได้เอะอะโวยวาย
ล่าสุด ช่วงบ่ายวันนี้ (3 ธันวาคม) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ตึกอุบัติเหตุ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา พบกับ นางรวยริน พิมพ์ปรุ อายุ 39 ปี ชาวตำบลหนองตะไก้ อำเภอหนองบุญมาก จ.นครราชสีมา สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองตะไก้ อำเภอหนองบุญมาก ผู้ขับขี่รถกระบะ ซึ่งได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า แพทย์ได้ตรวจดูอาการแล้วพบว่ากระดูกกรามเคลื่อน ไม่ถึงขั้นหัก และมีอาการช้ำในที่บริเวณช่องท้อง ต้องพักรักษาตัวและเฝ้าดูอาการต่อ เนื่องจากถูกกระแทกอย่างแรงกับพวงมาลัยรถ ภายในค่อนข้างบอบช้ำ ส่วนกระดูกกรามที่เคลื่อนจะต้องทำกายภาพอีกภายหลัง แต่อาการของหลานสาวยังหนักอยู่ เพราะกระดูกไหปลาร้าหัก และมีร่องรอยบาดเจ็บหลายจุด ต้องอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด ซึ่งหลังจากเกิดอุบัติเหตุ คู่กรณีก็ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมหรือให้ญาติเข้ามาติดต่อเพื่อแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด
ขณะนี้ตนต้องให้สามีเป็นธุระ เดินเรื่องค่ารักษาพยาบาล เรื่อง พ.ร.บ. และเรื่องอื่นๆให้ทุกอย่าง ทั้งที่โรงพยาบาลหนองบุญมากและที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งเดิมตนก็มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง ต้องมีค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวมากอยู่แล้ว ยังจะต้องมาเจ็บตัวเพราะคนไม่มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมแบบนี้อีก มันเดือดร้อนจริงๆ ส่วนรถที่ใช้ทำมาหากินก็ต้องมาพังเสียหาย หมดค่าใช้จ่ายอีกจำนวนมาก แต่จนบัดนี้คู่กรณีก็ยังไม่ติดต่อเข้ามาเลยสักครั้ง
“อยากให้คู่กรณีเข้ามาดูแล ถามไถ่อาการ และช่วยเหลือตนกับหลานที่ต้องมาบาดเจ็บเพราะการกระทำที่ขาดสติของคู่กรณีในครั้งนี้บ้าง และอยากจะให้เป็นกรณีตัวอย่าง สำหรับคนที่ดื่มสุราทั้งหลาย อย่าได้มาขับขี่บนท้องถนน เพราะจะสร้างความเดือดร้อน เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินกับตนเองและผู้อื่นได้” นางรวยรินกล่าว
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวตรวจสอบไปที่ สภ.หนองบุญมาก ทราบว่า อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณถนนสายบ้านหนองยายเทียม-บ้านหนองตะไก้ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านหนองตะไก้ประมาณ 600 เมตร โดยผู้ขับขี่รถเก๋งที่อ้างตัวว่าเป็นเกษตรอำเภอ คือว่าที่ร้อยเอกสกุลชัย ขำประถม เป็นข้าราชการอยู่ในสำนักงานเกษตรอำเภอหนองบุญมาก แต่ไม่ใช่หัวหน้าเกษตรอำเภอ ส่วนคู่กรณีที่ขับรถกระบะ ชื่อนางรวยริน พิมพ์ปรุ เป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหนองตะไก้ อ.หนองบุญมาก ซึ่งขับรถเก๋งมากับหลานสาววัย 4 ขวบ โดยได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สำนักงานเกษตรอำเภอหนองบุญมาก ปรากฏว่า วันนี้ว่าที่ร้อยเอกสกุลชัยไม่ได้เข้ามาทำงานแต่อย่างใด โดยเพื่อนร่วมงานยังไม่ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงไม่มีใครพร้อมให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้
จากนั้น ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ สภ.หนองบุญมาก พบรถคู่กรณีทั้ง 2 คัน โดยคันแรกเป็นรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว เลขทะเบียน 2ฒพ 6664 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าพังยับ กันชนบิดเบี้ยว กระโปรงรถเปิดเห็นตัวเครื่อง ส่วนอีกคันเป็นรถเก๋งโตโยต้า โคโรล่าอัลติส สีขาว เลขทะเบียน ฎช 6466 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าพังยับถึงตัวเครื่อง ล้อหน้าด้านซ้ายหลุดออกจากตัวรถ กระจกด้านซ้ายร้าว
จากการสอบถาม พ.ต.อ.สมชาย คมพยัคฆ์ ผู้กำกับการ สภ.หนองบุญมาก เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 2 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองบุญมาก ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันที่ถนนเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านหนองยายเทียม กับหมู่บ้านหนองตะไก้ ต.หนองตะไก้ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเป็นรถเก๋งชนกับรถกระบะ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย โดยเป็นชาย 1 รายที่ขับรถเก๋งมา ทราบชื่อคือว่าที่ร้อยเอกสกุลชัย ขำประถม เป็นข้าราชการประจำสำนักงานเกษตรอำเภอหนองบุญมาก ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายเล็กน้อย ส่วนอีก 2 ราย เป็นคนขับกับเด็กหญิงที่โดยสารมากับรถกระบะ ทราบชื่อคือนางรวยริน พิมพ์ปรุ อายุ 39 ปี ได้รับบาดเจ็บกรามหัก ตับฉีกขาด และหลานสาววัย 4 ขวบ ได้รับบาดเจ็บไหปลาร้าหัก ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
เบื้องต้นจากการวัดค่าปริมาณแอลกอฮอล์ พบว่า ผู้ขับขี่รถเก๋งคือว่าที่ร้อยตรีเอกสกุล มีอาการมึนเมาจริง วัดค่าปริมาณแอลกอฮอล์ได้สูงถึง 237 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานและหลักฐาน เพื่อที่จะแจ้งข้อหาขับขี่รถขณะมึนเมาสุรา และขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้บาดเจ็บ โดยต้องรอสอบปากคำคู่กรณีทั้งสองฝ่ายให้เรียบร้อยก่อน เนื่องจากขณะนี้คู่กรณีที่มากับรถกระบะได้รับบาดเจ็บกำลังพักรักษาตัวอยู่ แต่ยืนยันว่าแม้ว่าจะเป็นข้าราชการเหมือนกันก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการช่วยเหลือกันแน่นอน