นักวิชาการย้ำ ห้ามนำ ‘วัตถุจากนอกโลก’ แช่น้ำดื่มกิน ชี้ต้องแยกแร่ก่อน ถึงบอกได้ว่าคืออะไร
สืบเนื่องจากกรณีนายสัมฤทธิ์ บุญเพ็ง อายุ 65 ปี ชาว ต.หนองตาด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ร้องผ่านสื่อทวลชนอยากให้ผู้รู้มาพิสูจน์วัตถุประหลาดหล่นมาจากฟ้าแล้วไปโดนรั้วสังกะสีหน้าบ้านเสียงดังสนั่น ระหว่างกำลังปัสสาวะ ห่างจากตัวประมาณ 5 เมตร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.00 น. โดยรุ่งเช้าวันต่อมาไปดูจุดที่มีเสียงดัง พบว่าเป็นก้อนหินประหลาดลักษณะก้อนกลม สีดำนิล มีรูพรุน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5 ซม. หล่นอยู่ข้างรั้วดังกล่าว จึงเก็บไว้บนหิ้งพระ เพราะเชื่อว่าเป็นสิริมงคล และเชื่อว่าจะให้โชค เนื่องจากภรรยาฝันดีแทบทุกคืน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม นายณัฐพล วงษ์รัมย์ อายุ 34 ปี อาจารย์สาขาภูมิศาสตร์และภูมิสารสนเทศ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ออกมาระบุว่า จากการดูภาพแล้ว ทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า “วัตถุจากนอกโลก” ส่วนจะเป็นวัตถุชนิดใด จะต้องเอามาแยกแร่ก่อน จึงจะสามารถระบุได้
นายณัฐพลกล่าวว่า ส่วนความเชื่อของชาวบ้านที่นำไปบูชาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถือว่าไม่ผิด แต่ไม่แนะนำเอาไปแช่น้ำมาดื่มกิน หรือเอาไปเป็นยารักษาโรค เพราะอาจเป็นอันตรายขึ้นได้ ทั้งนี้ เป็นการวิเคราะห์จากภาพที่เห็นเท่านั้น ทั้งหมดจะต้องเอามาพิสูจน์ตามขั้นตอน จึงจะระบุได้ว่าเป็นวัตถุมาจากไหน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
– สองผัวเมียตื่น ก้อนหินประหลาดหล่นกระแทกรั้ว ดังสนั่น ลูกสาวเสิร์ชเน็ตบอกเป็นอุกกาบาต