ลูกชายวัย 15 ปี มีปัญหาพัฒนาการช้า ไม่พอใจถูกพ่อที่ห้ามเล่นโทรศัพท์ ใช้มีดแทงจนพ่อดับ ที่ ต.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.20 น. วันที่ 7 ธันวาคม พ.ต.อ.สุรวุฒิ เจริญจิตร ผกก. สภ.กรับใหญ่ พ.ต.ท.สุรัตน์ ประทุมแก้ว รองผกก.สส. ร.ต.อ.วิสิทธิ์ ประเสริฐโชคประชา รองสว. (สอบสวน) สภ.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสาน แพทย์เวร รพ.บ้านโป่ง และมูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังได้รับแจ้งว่า ลูกชายก่อเหตุใช้อาวุธมีดปลายแหลมปอกผลไม้แทงพ่อในตัวเองดับ ภายในบ้านหลังหนึ่ง ที่หมู่ 5 ต.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว บริเวณพื้นใกล้แคร่ไม้นั่งเล่นภายในบ้าน พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย นอนจมกองเลือด ทราบชื่อคือ นายทศพล จันทร์ดี อายุ 38 ปี อยู่บ้านที่เกิดเหตุ สภาพศพถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่บริเวณ หลังด้านซ้าย แผลกว้างประมาณ 3 ซม. ใกล้กันพบมีดปลายแหลมห่อด้วยกระดาษวางไว้ในตะกร้า จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสอบถามทราบว่าคนที่ลงมือแทง เป็นลูกชายวัย 15 ปี ซึ่งเป็นเด็กพัฒนาการช้า ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านโป่ง
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนเบื้องต้นให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนายทศพล ผู้ตาย ซึ่งเป็นพ่อของเด็กชายวัย 15 ปีมือมีด ได้เดินทางกลับมาจากทำงาน และได้เบิกเงินกับนายจ้างมาให้แม่และยายจำนวน 3,000 บาท จากนั้นได้โอนเงินไปให้ลูกสาวด้วย และเห็นลูกชายทำการบ้านและกำลังเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ พ่อจึงต่อว่าลูกไม่ให้เล่นโทรศัพท์ จนเกิดการโต้เถียงกันขึ้น ทำให้ลูกเกิดโมโหหยิบมีดขึ้นมาแทงไป 1 ครั้ง
จากการสอบสวนนางปุ๋ย จันทร์ดี แม่ของผู้ตายให้การว่า หลายชายผู้ก่อเหตุเป็นหลานที่ตนเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก เพราะพ่อกับแม่เลิกกัน ก่อนเกิดเหตุนายทศพลผู้ตายซึ่งเป็นลูกชายตนกลับมาบ้าน เห็นลูกชายกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์ จึงเข้าไปต่อว่าให้ทำการบ้าน และทำท่าเหมือนจะตีลูก เป็นจังหวะเดียวกับลูกชายใช้มีดที่วางอยู่ข้างตัวแทงสวนไปหนึ่งครั้ง ตนเห็นเหตุการณ์จึงรีบเข้าไปห้ามหลาน ก่อนผู้ตายจะเดินกระเสือกกระสนไปล้มลงในครัวจนเสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาลูกชายทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ก่อนนำตัวไปกราบขอขมาศพพ่อ และคุมตัวไว้ สอบสวนรายละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งนัดผู้เกี่ยวข้องร่วมสอบในครั้งนี้ เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเด็กอายุเพียง 15 ปี และทราบว่ามีปัญหาทางสมองจึงต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียด
