เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2563 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่อำเภอกระแสสินธุ์(บนคาบสมุทรสทิงพระ)จ.สงขลา เพื่อติดตามการมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนบ้านโคกแห้ว ต.โรง อ.กระแสสินธุ์ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ในช่วง 2-3 สัปดาห์
นายนิพนธ์ กล่าวว่า นำความห่วงใยจากรัฐบาล นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีมายังประชาชนผู้ประสบภัยทุกคน ซึ่งตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนจนถึงปัจจุบัน คณะรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้มีปริมาณน้ำมากกว่าปกติ ทำให้มีผู้เสียชีวิตในพื้นที่ภาคใต้ 30 รายถือเป็นตัวเลขที่สูง รัฐบาลไม่อยากให้เกิดขึ้น พร้อมขอย้ำให้ประชาชนดูแลความปลอดภัยชีวิตเป็นอันดับแรก อย่าประมาท โดยเฉพาะบุตรหลาน อย่าปล่อยให้ลงเล่นน้ำ นอกจากนี้ผู้เสียชีวิตบางคนเกิดจากความประมาท เช่น ออกดักปลา จับปลา ฯลฯ ขณะน้ำท่วม โดยคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่เนื่องจากปริมาณน้ำมาเร็ว และแรง ทำให้ไม่สามารถต้านทานแรงน้ำได้ ทำให้จมน้ำเสียชีวิตในที่สุด
“ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำอุปกรณ์ เครื่องจักรกล และเครื่องมือต่าง ๆ ออกมาช่วยประชาชนอย่างใกล้ชิด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ด้วยความห่วงใยของรัฐบาล ยังคงเน้นย้ำให้รักษาชีวิตเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่ต้องกังวล ไม่ว่าจะเป็นด้านปศุสัตว์ ด้านเกษตรที่ได้รับความเสียหาย ขอให้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อแจ้งข้อมูลแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามความเป็นจริงในการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการต่อไป ตั้งแต่เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา มีการสั่งการไปยังหน่วยงานรับผิดชอบอย่างเต็มที่ รวมถึงการเยียวยาความเสียหายหลังน้ำลด เพื่อให้ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว” นายนิพนธ์กล่าว
จากนั้น นายนิพนธ์และคณะเดินทางไปตรวจติดตามการเร่งระบายน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่ ต.โรง และ ต.เชิงแส อ.กระแสสินธุ์ โดยพบสภาพน้ำท่วมขังเริ่มเน่าเสีย ส่งกลิ่นรบกวน กระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่แล้ว ซึ่งนายนิพนธ์ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เครื่องสูบน้ำของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลดปัญหาความเดือดร้อนจากน้ำเน่าเสียให้แก่ประชาชน ก่อนเดินทางต่อไปยัง อ.สิงหนคร เพื่อติดตามการนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ ต.ชะแล้
สำหรับ สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.สงขลา หลังเกิดฝนตกหนัก ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายยน -12 ธันวาคม มีพื้นที่ประสบสาธารณภัย 15 อำเภอ 81 ตำบล 470 หมู่บ้าน 68 ชุมชน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 58,828 ครัวเรือน 166,026 คน อพยพ 32 คน มีผู้เสียชีวิต 2 คน ปัจจุบัน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 11 อำเภอ และส่งผู้อพยพกลับไปยังบ้านเรือนที่อยู่อาศัยแล้ว แต่ยังคงมีพื้นที่น้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่ม 4 อำเภอ บนคาบสมุทรสทิงพระ อ.กระแสสินธุ์ สิงหนคร ระโนด และอ.สทิงพระ 15 ตำบล 46 หมู่บ้าน 1,419 ครัวเรือน 4,455 คน
