ลุงจรูญ ทำตามสัญญา ตั้งโต๊ะแถลงขออภัย ครูปรีชา คาดพรุ่งนี้อีกฝ่ายถอนฟ้องตามนัด

ลุงจรูญ ทำตามสัญญา ตั้งโต๊ะแถลงขออภัย ครูปรีชา คู่กรณีหวย 30 ล้าน ก่อนครบกำหนดเวลา เพียง 3 ชม. คาดพรุ่งนี้อีกฝ่ายถอนฟ้องตามนัด จากนั้นไต่สวนพยานคดีลุงจรูญฟ้องครูพร้อมทนายคู่ใจอีก 1 คดี

 

จากกรณี นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ในคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร เนื่องจากทั้งคู่ต่างอ้างว่าเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 เลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท ต่อมาวันที่ 4 มิ.ย.62 ศาลจังหวัดกาญจนบุรี พิพากษายกฟ้อง หมวดจรูญ และเมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้พิพากษา ยืนยกฟ้องตามศาลชั้นต้น เช่นกัน เนื่องจากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ครูปรีชา (โจทก์) ไม่ใช่ผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4) จึงไม่มีอำนาจฟ้อง หมวดจรูญ

แต่คดีย่อยที่ฟ้องแยกออกไปยังมีอีกหลายคดี โดยคดีที่ ครูปรีชา ฟ้อง หมวดจรูญ ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาที่หมวดจรูญให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่บ้านพักส่วนตัวเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.62 ว่า “คนที่เลวโดยสันดาน การศึกษาก็ช่วยไม่ได้” จากนั้นวันที่ 1 ส.ค.62 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ แต่ต่อมา ครูปรีชา ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้กลับคำสั่งศาลชั้นต้นว่าคดีมีมูลและรับเป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ1359/2562 และเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ได้นัดสืบพยานโจทก์นัดแรก แต่ก่อนจะมีการสืบพยานศาลได้ให้คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายไกล่เกลี่ยหาทางออกร่วมกัน สุดท้ายคู่กรณีระหว่างครูปรีชากับหมวดจรูญนั้นสามารถไกล่เกลี่ยกันได้โดยให้หมวดจรูญ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพื่อขอโทษครูปรีชา ออกสื่อภายในวันที่ 16 ธ.ค.63 ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว

โดยวันนี้ 16 ธ.ค.63 เป็นวันที่ครบกำหนดตามที่คู่กรณีตกลงกันไว้ถามที่แถลงต่อศาล ทาง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ พร้อมด้วยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความส่วนตัว ได้ตั้งโต๊ะขออภัยนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ผ่านสื่อมวลชน ที่บ้านพักส่วนตัว หมู่บ้านศิริชัย วังสารภี ซ.5 หมู่ 8 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลา 20.45 น. ที่ผ่านมา ก่อนจะครบกำหนดเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

Advertisement

ทั้งนี้ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2562 ก่อนที่จะมีคำตัดสินคดีหวย 30 ล้าน ตอนนั้นคุณลุงได้ทำการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่บ้านพัก และได้มีการพูดให้สัมภาษณ์ว่า “คนที่เลวโดยสันดารการศึกษาก็ไม่ช่วยอะไร” แต่ปรากฏว่าทาง ครูปรีชา ไปฟ้องต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรีว่า คุณลุงได้มีการกล่าวถึงครูปรีชาหรือเปล่า ซึ่งคดีก็สู้กันมา ซึ่งศาลชั้นต้นท่านบอกว่าครูปรีชาไม่ใช่ผู้เสียหาย เพราะคุณลุงจรูญ ไม่ได้ระบุชื่อว่าเป็นครูปรีชา

แต่เมื่อถึงชั้นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ก็บอกว่า เรื่องนี้อาจจะทำให้ครูปรีชาเสียหาย เพราะว่าในการให้สัมภาษณ์มีการพูดถึงเรื่องหวย 30 ล้านบาท และมีการพูดถึงครูปรีชาด้วย ซึ่งคำพูดนั้นอาจจะหมายถึงครูปรีชาก็ได้

จึงให้ย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นได้พิจารณา แต่ระหว่างที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีการพิจารณา ท่านก็ได้มีการไกล่เกลี่ย เพราะว่าท่านคงจะมองเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ซึ่งจะทำให้เสียเวลาของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย

Advertisement

ดังนั้นท่านจึงได้ไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่ายว่าอยากให้เรื่องนี้จบไป แต่ทางคุณลุงก็บอกว่าไม่ได้หมายถึงครูปรีชา แต่ศาลท่านก็บอกว่าอะไรที่เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ถ้าผ่านไปได้ก็ขอให้ผ่านไป ให้เราไปมุ่งเน้นคดีหลักกันจะดีกว่า เช่นคดีที่มีการดำเนินคดีกันคือคดีหลักเรื่องหวย 30 ล้าน หรือเรื่องคดีที่จะไต่สวนในวันพรุ่งนี้ (17 ธ.ค.) คือเรื่องของการฟ้องเท็จ

“ซึ่งตัวคุณลุงก็คิดว่าก็ดีเหมือนกัน เพราะเราจะได้ไม่ทำให้เสียเวลาของศาล และประหยัดเวลาของคุณลุงในการที่จะได้มีเวลาอยู่กับครอบครัว จึงได้รับปากว่าจะจัดแถลงข่าวเพื่อขออภัยครูปรีชา จึงเป็นที่มาของการแถลงข่าวในวันนี้” นายษิทรา กล่าว

ต่อมา หมวดจรูญ ได้พูดขออภัย นายปรีชา ใคร่ครวญ โดยใช้ถ้อยคำตามที่ตกลงกันไว้ว่า “ตามที่ข้าพเจ้าเคยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2562 ว่า คนที่เลวโดยสันดานเนี๊ยะ มัน การศึกษามันช่วยไม่ได้หรอกนะ การศึกษาก็ช่วยไม่ได้ หากข้อความที่ให้สัมภาษณ์ดังกล่าวทำให้นายปรีชา ใคร่ครวญ ได้รับความเสียหาย ข้าพเจ้าขออภัย”

จากนั้น ทนายษิทรา ได้กล่าวเพิ่เติมว่า คดีนี้ตามรายงานพรุ่งนี้ครูปรีชาก็คงจะต้องไปถอนฟ้องตามที่ได้กำหนดกันเอาไว้คือเรื่องนี้ไม่มีใครถูกและไม่มีใครผิด ซึ่งคุณลุงจรูญก็ได้กล่าวขออภัย ส่วนครูปรีชาก็ไปถอนเรื่องออก ซึ่งก็จบไปแล้วอีกเรื่องหนึ่ง

ส่วนในวันพรุ่งนี้ก็จะมีการไต่สวนกันต่อเกี่ยวกับการที่ลุงจรูญ ฟ้องครูปรีชาและทนายความส่วนตัว ในข้อหาร่วมกันฟ้องเท็จ ซึ่งฝ่ายครูปรีชาได้ขอเลื่อนมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งพรุ่งนี้ก็คิดว่าคงจะไม่ได้เลื่อนอีกแล้ว หลังจากพรุ่งนี้ไต่สวนแล้วเสร็จ ศาลก็คงจะมีคำสั่งว่าคดีจะมีมูลหรือไม่ ถ้าหากมีมูลก็จะเข้าสู่ชั้นพิจารณา เอาหลักฐานของทั้งสองฝ่ายมานำเสนอต่อศาล หากศาลมีคำพิพากษาว่ามีความผิด ครูปรีชาและทนายความก็จะได้รับโทษ แต่หากศาลพิพากษาว่าไม่ผิด ก็ยกฟ้องไป ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับพยานและหลักฐานต่างๆ

และสิ่งที่การที่ครูปรีชามาฟ้องลุงจรูญว่ายักยอกทรัพย์ รับของโจร เรามองว่าเป็นเท็จ และการที่เราฟ้องไปเพราะเรารู้ว่าทางทนายความและครูปรีชาทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นเท็จเราถึงฟ้อง ซึ่งเรามีความเชื่อเช่นนี้เราถึงต้องใช้สิทธิ์ทางศาล แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องรอให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน

ส่วนเรื่องของคดีหลัก ทราบว่าทางฝ่ายของครูปรีชา ได้มีการขอขยายฎีกาอยู่ ส่วนศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์จะรับคำร้องอนุญาตให้ฎีกาหรือไม่ จะต้องรอให้ส่งฎีกาไปก่อนเราจึงจะรู้ว่าท่านจะอนุญาตหรือรับรองหรือไม่ หากไม่รับรองคดีหลักก็จบลงที่ศาลอุทธรณ์ แต่ถ้าหากรับรองคดีก็ขึ้นสู่ศาลฎีกา ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกพอสมควร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image