วันที่ 13 สิงหาคม 2559 เมื่อเวลา 12.00 น. นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายนิพันธ์ ศิริธร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายสมเกียรติ อินทรคำ ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดตรัง เดินทางไปตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้บริเวณห้างลีมาร์ทซุปเปอร์ค้าส่ง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่าเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยเพราะในห้างปรากฏว่ามีกระป๋องสี กระป๋องแก๊สต่างซึ่งเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะให้เกิดระเบิดได้ ไฟดับแล้วก็จริง แต่ยังมีควันคุกกรุ่นอยู่ กลัวจะมีการระเบิดเกิดขึ้นมาอีกจึงต้องดับอยู่เรื่อย ๆ วันนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านดับเพลิงจากศูนย์เขตเพื่อมาดู มาดับเพลิงให้ยุติลงอย่างเด็ดขาด ในส่วนของตัวอาคาร ตอนนี้มั่นใจในเรื่องต้นเพลิงวันนี้คงเรียบร้อยทุกอย่าง เพราะได้ผู้เชี่ยวชาญมาแล้วสกัดตัวที่เป็นต้นเพลิงได้เรียบร้อย
นายเดชรัฐ กล่าวว่า ขณะนี้ได้แต่งตั้งคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมา โดยมีท่านปลัดจังหวัดเป็นประธาน ก็จะประเมินว่าโครงสร้างยังใช้ได้อีกหรือไม่ ความเสียหายระดับไหน และจะตรวจสอบละเอียดว่าตึกนี้เป็นความรับผิดชอบของใคร ซึ่งตึกนี้มีเจ้าของรับผิดชอบอยู่ แต่ทางเจ้าของได้เช่าที่ของรถไฟต้องคุยกับรถไฟด้วยว่า รถไฟเองจะเอาอย่างไรกับตึกนี้จะให้มีการบูรณะใหม่หรืออย่างไร ซึ่งทางเบื้องต้นต้องประมวลข้อมูลว่าทางห้างลีมาร์ท ว่ามีการทำประกันเอาไว้หรือไม่ ในส่วนของห้าง ถ้ามีการทำประกันทางประกันต้องเข้ามามีส่วนช่วยดูแลช่วยเหลือของทรัพย์สินที่เสียหายไป
ด้านนางจันทิพย์ รังสิปราการ รองปลัดเทศบาลนครตรัง รับผิดชอบฝ่ายป้องกันสาธารณะภัยเทศบาลนครตรัง (รถดับเพลิง) กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่สาธารณะภัยเทศบาลนครตรัง ก็ได้ประสานดับเพลิงทุกแห่งในจังหวัดตรังได้มาช่วยระดมดับไฟตั้งแต่ ตี 3 ของวันที่ 12 สิงหาคม 2559 จนถึง 12.00 น.ของวันที่ 13 สิงหาคม 2559 รวมเป็นเวลากว่า 33 ชั่วโมง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการดับไฟอย่างต่อเนื่องจนไฟดับสนิทแล้ว และพร้อมกับเคลื่อนรถดับเพลิงกลับยังหน่วยงานที่ตั้งทั้งหมด ซึ่งการใช้น้ำดับไฟในครั้งนี้ประมาณ 1 ล้านลิตร ที่ใช้ฉีดเข้าไปในตัวอาคารซึ่งตัวอาคารไม่มีทางระบายน้ำออกมาเลย และคาดว่าหลังจากนี้น้ำหนักน้ำที่ค้างอยู่ในตึกของห้าง จะทำให้ตัวของห้างทรุดลงมาได้ จึงห้ามเข้าใกล้และภายในอย่างเด็ดขาด และหากมีการทุบอาคารทิ้งหรือคงไว้เพื่อซ่อมแซมก็ต้องขึ้นอยู่กับวิศวะกรโยธาของเทศบาลนครตรังด้วย ยอมรับว่าดับเพลิงครั้งนี้เป็นงานหนักมากของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง
อย่างไรก็ตามในวันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนักกว่า 6 ชั่วโมง ทำให้การดับเพลิงที่มีความร้อนในตัวอาคารด้านบนเย็นลง และมั่นใจว่าเพลิงจะไม่ลุกขึ้นมาอีก จึงได้สั่งให้ถอนกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและรถดับเพลิงกลับที่ตั้งแต่ละจุด หลังจากปฎิบัติงานกันมานานเกือบ 2 วัน
