รวบตัวสาวใหญ่นายหน้าเถื่อน ต้มตุ๋น 40 คนไปทำงานต่างประเทศ เสียหายกว่า 8 ล้านบาท

ตำรวจชัยภูมิรวบตัวสาวใหญ่นายหน้าเถือนต้มตุ๋น 40 คนงานไปทำงานต่างประเทศ วงเงินกว่า 8 ล้านบาท ผู้เสียหายแห่มอบช่อดอกไม้ขอบคุณเจ้าหน้าที่

เมื่อ เวลา 13.30 น. วันที่ 17 ธันวาคม 2563 พล.ต.ต.ฉลอง สุขจันทร์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ,พ.ต.อ.ไกรสมุทร ทาโบราณ รอง ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ,พ.ต.อ.ไพรโจรน์ ขุ่นหมื่น รอง ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ,พ.ต.ท.กิตติพงษ์ ถนอมสิน รอง ผกก.กก.สืบสวน ภ.จว.ชัยภูมิ ,พ.ต.ท.นิธิศ จารุกมลกุล รอง ผกก.กก.สืบสวน ภ.จว.ชัยภูมิ และเจ้าพนักงาน กอ.รมน. จังหวัดชัยภูมิ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว น.ส.พีทฌญาณา คลังทอง อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเขียว ที่ 122/2563 ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2563 และยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ อีก จำนวน 3 หมายจับ ในข้อหาร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือส่งไปฝึกงานที่ต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงนั้น ได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวงและร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ ภายหลังสืบทราบว่าผู้ต้องหา ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ภายใน รีสอร์ท แห่งหนึ่งภายในตัวเมืองชัยภูมิ เจ้าพนักงานชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ จนสามารถจับกุมตัวได้ เมื่อ 16 ธันวาคม 2563 เวลาประมาณ 17.00 น.

เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นนายหน้าจัดหาคนไปทำงานที่ต่างประเทศจริง โดยร่วมกับ น.ส.นุชรีพร เชื้ออ่อน เป็นผู้จัดหาคนไปทำงานต่างประเทศ โดยใช้บัญชีธนาคารกรุงเทพ หมายเลข 3004563006 ชื่อบัญชี น.ส.พีทฌญาณา คลังทอง, บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 2292699282 ชื่อบัญชี นางระรินธร เชื้ออ่อน ,บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ หมายเลข 4390007685 ชื่อบัญชี นายวุฒิเทพ คลังทอง และบัญชีธนาคารกรุงเทพ หมายเลข 6802405059 ชื่อบัญชี นายสุรศักดิ์ บุญชื่น ทั้ง 4 บัญชี ใช้ในการรับโอนเงินจากผู้เสียหาย โดยผู้ที่สนใจไปทำงานต่างประเทศจะต้องเสียค่าใช้จ่ายการดำเนินการคนละ 90,000 ถึง 190,000 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายในการดำเนินการมาก หรือน้อย ขึ้นอยู่กับประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ

โดย น.ส.พีทฌญาณา คลังทอง รับว่าเป็นผู้รับเงินจากผู้เสียหายจริง แต่ จะได้รับเงินค่านายหน้าแค่คนละ 25,000 บาทเท่านั้นส่วนที่เหลือ จะโอนไปให้ชาวต่างชาติที่เป็นผู้สามารถพาไปทำงานต่างประเทศได้ เจ้าพนักงานชุดจับกุมจึงได้นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ภูเขียว ภ.จว.ชัยภูมิ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะตำรวจแถลงข่าว มีผู้เสียหาย ทั้งหมด 40 คน ซึ่งตกเป็นเหยื่อของผู้ต้องหา เดินทางมามอบช่อดอกไม้ ขอบคุณให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำนวจ ทหาร ที่สืบสวน จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ พวกตนเชื่อและหวังว่าจะได้ไปทำงานต่างประเทศจริง จึงยอมโอนเงินให้ผู้ต้องหา แต่ก็ไม่ได้เดินทาง ญาติพี่น้องทักท้วงก็ไม่เชื่อ อยากให้เร่งดำเนินคดีให้เสร็จไวๆ เพราะเงินที่นำมาล้วนกู้ดอกเบี้ยงแพงมาทั้งนั้น หรือหยิบยืมญาติพี่น้องมา

ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า มีผู้เสียหายในคดีนี้มากถึงจำนวน 40 ราย แบ่งผู้เสียหายออกเป็นในพื้นที่อำเภอภูเขียว จำนวน 23 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย จำนวน 4,940,070 บาท, ในพื้นที่อำเภอบ้านแท่น จำนวน 2 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย จำนวน 392,690 บาท, ในพื้นที่อำเภอแก้งคร้อ จำนวน 1 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย จำนวน 178,000 บาท, ในพื้นที่อำเภอจัตุรัส จำนวน 7 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย จำนวน 1,131,170 บาท, ในพื้นที่อำเภอเมืองชัยภูมิ จำนวน 5 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย จำนวน 511,400 บาท และในพื้นที่อำเภอคอนสวรรค์ จำนวน 2 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย จำนวน 417,5500 บาท โดยรวมทั้งจังหวัดชัยภูมิมีผู้หลงเชื่อถูกหลอกลวงเงินรวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 8,000,000 บาท

Advertisement

ด้านนายวิชิต อินทรเจริญ จัดหางานจังหวัดชัยภูมิ ได้กล่าวกับผู้เสียหายว่า คดีนี้ทางสำนักงานติดตามมานาน จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ พร้อมเตือนผู้ที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ ให้ตรวจสอบข้อมูลกับสำนักงานจัดงานทุกครั้ง ก่อนที่จะตัดสินใจเชื่อผู้คน หรือนายหน้า ที่เข้ามาชักชวนว่าสามารถช่วยดำเนินการจัดส่งไปทำงานต่างประเทศได้ เช่นคนๆนั้นเป็นนายหน้าจริงหรือไม่ มีตำแหน่งงานในประเทศที่กล่าวอ้างจริงหรือไม่ ข้อมูลเหล่านี้สามารถตรวจสอบได้ หากตัดสินใจไปโดยไม่ตรวจสอบ อาจถูกหลอกลวงเช่นเดียวกับ 40 ราย ในครั้งนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image