หลวงตาชื่น พระธุดงค์เท้าเปล่า ใกล้ถึงที่พักสงฆ์บ้านเกิด คนแห่กราบไหว้ ธุดงค์กว่าพันกิโลทุกปี

หลวงตาชื่น พระธุดงค์เท้าเปล่า ใกล้ถึงที่พักสงฆ์บ้านเกิด คนแห่กราบไหว้ บำเพ็ญเพียรสละทางโลก ธุดงค์กว่าพันกิโลทุกปี

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าเกี่ยวกับ พลังศรัทธาต่างพากันแห่กราบไหว้ขอพร ตลอดเส้นทางการ เดินจาริกธุดงค์เท้าเปล่า ของ หลวงตาบุญชื่น ปัญญาวุฒิโท พระธุดงค์สายป่า อายุ 72 ปี ชาวบ้านเสาเล้า ต.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม หลังสละทางโลก ตัดสินใจอุบสมบท บำเพ็ญเพียร ปฏิบัติธรรมกรรมฐาน แสวงบุญ จาริกธรรม ตามรอยพระเกจิชื่อดัง คือหลวงปู่มั่น ที่มีความเชื่อ ความศรัทธามาตลอด เพื่อหาความสงบสุขในชีวิต ทำให้ตัดสินใจขอลาครอบครัว ภรรยา และ ลูกอีก 4 คน อุปสมบทเป็นพระ มาตั้งแต่อายุ 60 ปี

นอกจากนี้ยังได้บำเพ็ญเพียร ด้วยการเดินจาริกธุดงค์เท้าเปล่า ทุกปี มาตั้งแต่ปี 2559 ปัจจุบัน รวมเป็นเวลาร่วม 5 ปี ทุกปีจะเดินจาริกธุดงค์ เป็นระยะทาง กว่า 1,000 กิโลเมตร จากภาคอีสาน บ้านเกิด ณ ที่พักสงฆ์ชั่วคราว ท้ายหมู่บ้านเสาเล้าใหญ่ หมู่ 2 ต.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ไปกลับภาคเหนืออีสาน ทุกปี ใช้ระยะเวลาเดินทางไปกลับประมาณ 2 เดือน เพื่อเป็นการบำเพ็ญเพียร โดยยอมสละสังขาร ด้วยการบำเพ็ญเพียรธุดงค์ มรณภาพที่ไหน เผาที่นั่น ที่สำคัญตลอดเส้นทาง ไม่รับปัจจัย และสิ่งของ รับเพียงน้ำเปล่า พอดื่มดับกระหาย ทำให้มีชาวบ้านพลังศรัทธาที่ติดตามข่าว มารอกราบไหว้ขอพร

ล่าสุดวันนี้ หลวงตาบุญชื่น ปัญญาวุฒิโท พระธุดงค์สายป่า เดินธุดงค์เท้าเปล่า เข้าพื้นที่ อ.เมือง จ.นครพนม หลังเดินทางกลับจากภาคเหนือ และเดินทางกลับมุ่งหน้าสู่ที่พักสงฆ์ชั่วคราว ท้ายหมู่บ้านเสาเล้าใหญ่ หมู่ 2 ต.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ผ่านมาหลาย จังหวัดของภาคอีสาน จนสภาพเท้าเป็นแผลไหม้จากความร้อนของถนนแอสฟัลต์ลาดยางมะตอย แต่ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับหลวงตา ยังใช้ความเพียร เดินธุดงค์ต่อเนื่อง ค่ำที่ไหนจะนอนตามป่า ตามทุ่งนา หรือตามวัด ที่เหมาะสม ซึ่งในวันนี้ได้พักในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พรุ่งนี้เช้าจะเดินจาริกธุดงค์ต่อถึงที่หมายบ้านเกิด เหลือระยะทางอีกประมาณ 20 กิโลเมตร ส่วนสิ่งปัจจัยที่มีพลังศรัทธามาถวายตลอดเส้นทางจะไม่รับ ส่วนน้ำดื่มจะให้นำไปบริจาคตามสถานที่สำคัญต่างๆ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม

Advertisement

ทั้งนี้ จากการสอบถาม หลวงตาบุญชื่น ปัญญาวุฒิโท พระธุดงค์สายป่า อายุ 72 ปี เคยเปิดเผยถึงเส้นทางชีวิตว่า หลังตนสร้างฐานะครอบครัว แต่งงานกับ นางตาล อุ่นเพียรโสม อายุ 67 ปี ตั้งแต่อายุ 20 กว่าปี ลูกด้วยกัน 4 คน สร้างฐานะครอบครัว มาตลอดร่วม 40 ปีทำไร่ทำนา จนอายุ 60 ปี ได้ตัดสินใจลาบวช เมื่อปี 2552 โดยครอบครัวไม่ขัดข้อง เพราะตนเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา รวมถึงอยากปฏิบัติธรรมบำเพ็ญเพียรภาวนา ตามรอยพระเกจิชื่อดัง หลวงปู่มั่น เพราะเชื่อว่าจะเป็นหนทางสู่ความสงบสุข ตัดทางโลกสู่ทางธรรม จึงเริ่มตัดสินใจ เดินจาริกธุดงค์เท้าเปล่า ในช่วงก่อนเข้าพรรษาประมาณ 1 เดือน ทุกปี เพื่อมุ่งหน้าไปตามวัดที่สำคัญ ไปกราบนมัสการพระชั้นผู้ใหญ่ และจำพรรษา

ปีแรกมุ่งหน้าสู่ จ.เชียงราย เมื่อปี 2559 ไปกลับเหนืออีสาน หลังจากออกพรรษา จะเดินธุดงค์กลับบ้านเกิด ณ ที่พักสงฆ์ชั่วคราว ท้ายหมู่บ้านเสาเล้าใหญ่ หมู่ 2 ต.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ที่ลูกหลาน ญาติ ทำไว้ให้ ซึ่งต่อเนื่องมาทุกปี ถึงแม้จะรู้ว่า ครอบครัว เป็นห่วง แต่ตนได้สั่งไว้ว่า ตายที่ไหนเผาที่นั่น ได้สละสังขารสู่ทางธรรมแล้ว ส่วนใหญ่ญาติจะติดตามได้จากข่าวเท่านั้นไม่มีโทรศัพท์ติดต่อ เมื่อหลายปีก่อน เคยไปธุดงค์จำพรรษาในพื้นที่เขาภูพาน ถ้ำเตียง สิริขันธ์ เทือกเขาภูพาน จ.สกลนคร มาต่อเนื่องถึง 4 ปี สำคัญที่สุดตนไม่ต้องการรับสิ่งของปัจจัย เพราะกิจของสงฆ์จะต้องไม่ขาด มีแค่ บิณฑบาต ทำวัดเช้าเย็น สวดมนต์ เจริญภาวนา และศึกษาธรรมะ มาถึงวันนี้ชีวิตไม่ได้กังวล เพราะสละทุกอย่างแล้ว ปล่อยให้เป็นไปตามสังขาร ตราบใดเดินไหวยังจะแสวงบุญทุกปี

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image