ผู้ว่าฯสมุทรสาครนำระดมฉีดคลอรีนฆ่าโควิด จ่อคุมเข้ม ออกบ้านไม่ใส่หน้ากาก ปรับ2หมื่น

ผู้ว่าฯ ระดมฉีดคลอรีนฆ่าโควิด ด้านผู้ดูแลตลาดกลางกุ้งยันเชื้อไม่ได้มาจากแรงงานเมียนมา ขณะที่ทะเลไทยแจง สินค้าปลอดภัย วอนผู้ซื้ออย่าสับสน โควิดไม่ได้ผุดในพื้นที่

จากเหตุการณ์ที่มีการพบผู้ป่วยโควิด -19 ในจังหวัดสมุทรสาคร 1 ราย โดยตามไทม์ไลน์ระบุเป็นหญิงชาวไทยวัย 67 ปี อาชีพค้าขาย (เจ้าของแพปลา-แพกุ้ง) อยู่ในตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาครตามที่ได้เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (18 ธ.ค.63) ที่บริเวณหน้าตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีทั้งแพกุ้ง และแพปลา(บางส่วน) อยู่ในพื้นทีเดียวกันนั้น ก็ได้ประกาศปิดตลาด 1 วัน เพื่อล้างทำความสะอาดทั่วทั้งตลาด แต่ในส่วนที่พบผู้ติดเชื้อโควิดรายแรก ซึ่งเป็นทั้งแพกุ้ง และแพปลาอยู่ในโซนเดียวกัน ก็ได้มีคำสั่งให้หยุดทำการ 3 วัน

จากนั้นทางด้านของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายชิงชัย บุญประคอง ปลัดเทศบาล รักษาการแทนนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร และทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรคฯ ก็ได้ลงพื้นที่นำคลอรีนฉีดพ่นทำความสะอาดทั่วทั้งตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 อีกทั้งยังมีมาตรการกำชับให้แรงงานต่างด้าวที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ตลาดกลางกุ้งกว่า 2,000 คน ต้องสวมหน้ากากอนามัย และต้องใช้แอลกอฮอล์ล้างมือทุกครั้ง อีกทั้งยังต้องมีการตรวจคัดกรองโรคก่อนเข้าทำงานทุกวันด้วย

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่มีความใกล้ชิดหรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นหญิงวัย 67 ปีนั้น ขณะนี้ตามตัวได้ครบหมดแล้วทั้ง 18 คน โดย 2 รายล่าสุดคือ แรงงานต่างด้าวที่เป็นลูกจ้าง ก็ตามพบแล้วและอยู่ในระหว่างการดูแลของโรงพยาบาล ขณะที่การสอบสวนโรคเพื่อหาต้นตอของเชื้อโควิด-19 ในเรื่องนี้ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้เพราะยังไม่มีความชัดเจน แต่คาดว่าน่าจะได้คำตอบเพิ่มขึ้น หากทุกคนยอมให้ข้อเท็จจริงทั้งหมด และจะได้ลำดับเหตุการณ์ (ไทม์ไลน์) ออกมาอย่างละเอียดมากกว่าครั้งแรก ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าติดเชื้อมาจากแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาหรือไม่ ยังคงต้องพยายามหาสาเหตุให้ได้ จะสามารถหาต้นตอในการติดเชื้อครั้งนี้ และตีกรอบเพื่อป้องกันเชื้อได้ง่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็อยากจะหาสาเหตุว่าติดเชื้อเพราะอะไร ที่น่ากลัวอย่างหนึ่งก็คือ หาสาเหตุไม่ได้ เราไม่รู้ว่าผู้ป่วยติดเชื้อมาจากที่ใด แต่ที่สอบสวนโรคผู้ป่วยยังไม่พบว่ามีการเดินทางออกนอกพื้นที่

Advertisement

นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า แรงงานต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร มีประมาณ 2,000 คน แต่ได้เข้ามาให้ข้อมูลและทำการตรวจคัดกรองโรคไปแล้วประมาณ 200 – 300 คน ที่เหลืออยู่ในระหว่างหารือว่าจะให้แรงงานต่างด้าวเหล่านี้มาให้ข้อมูลครบได้อย่างไร ส่วนใหญ่พักอาศัยอย่างเดียว ไม่ได้ทำงานที่นี่ แต่ก็ต้องสอบสวนโรคให้ครบทุกคนก่อน ซึ่งความยากในการสอบสวนโรคก็คือ แรงงานต่างด้าวค่อนข้างเยอะ ขณะเดียวกันทางจังหวัดก็ได้ใช้มาตรการกับแรงงานต่างด้าวมาหลายเดือนแล้ว เพราะฉะนั้นพิสูจน์ให้เห็นว่ากลไกสมุทรสาครโมเดลทำงานเชิงรุกตลอดเวลา แต่ตามไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลง เพราะสมุทรสาครไม่ใช่จังหวัดปิดแบบห้ามคนเข้าออกนอกพื้นที่ ดังนั้นจึงมีคนที่หลบหนีเข้าเมืองเข้ามาโดยใช้ช่องทางธรรมชาติ บางคนเดินทางมาถึงมหาชัย เมื่อจับได้ก็ส่งตัวกลับ โดยจะพบเกือบทุกวัน

นายวีระศักดิ์ กล่าวย้ำอีกว่า ด้านความเข้มข้นในมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมโรค ก็คงต้องเน้นย้ำเรื่องของการสวมหน้ากากอนามัย ตามประกาศของจังหวัดสมุทรสาครที่เคยออกมา บังคับว่าหากไม่สวมหน้ากากอนามัยออกจากบ้าน จะถูกจับปรับ 20,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมาพอสถานการณ์โควิดคลี่คลาย การบังคับใช้ก็หย่อนลงไปด้วย ดังนั้นเมื่อสถานการณ์กลับมาตรึงเครียดอีกครั้ง จึงจะต้องมีการหารือเพื่อปรับและบังคับใช้อย่างเข้มข้นกันอีกครั้ง โดยจะมีการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร แล้วจะประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป รวมถึงการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคมนี้ อาจจะต้องนำมาตรการทางกฎหมาย มาผสมกับมาตรการของจังหวัดในการบังคับใช้เรื่องของการสวมหน้ากากอนามัยเข้าคูหาเลือกตั้ง

ส่วนเรื่องภาพลักษณ์จังหวัดสมุทรสาครที่ผู้ซื้อกลัว จนไม่กล้ามาซื้อกุ้งและปลา ตลอดจนอาหารทะเลนั้น นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับความจริงว่าเป็นความตื่นตระหนกของผู้คน เหมือนเหตุการณ์ที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ บางคนโทรศัพท์หาตนว่าทำไมคนที่กลับจากเชียงราย เชียงใหม่ถึงไม่กักตัว ทำไมไม่กักบริเวณไว้ ยังไปเพ่นพ่าน ตนก็ชี้แจงว่าไม่ได้เป็นพื้นที่เสี่ยงอันตราย ในขณะเดียวกัน เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สมุทรสาคร จะไปดำเนินการกับสินค้าต่างๆ ที่มาจากสมุทรสาคร กล่าวหาว่าไม่ได้คุณภาพ ก็ต้องช่วยบอกกัน เพราะจริงๆ แล้วที่จังหวัดสมุทรสาครมีคณะกรรมการคอยดูแลเรื่องนี้อยู่ ทุกอย่างเป็นไปโดยมีประสิทธิภาพ ควบคุมเด็ดขาด ทุกอย่างเป็นเรื่องของความเชื่อมั่น อยากให้ทุกคนที่เป็นคนสมุทรสาครได้ช่วยกัน บ้านของเรากำลังถูกหลายฝ่ายโจมตีว่าทำให้เกิดความเสียหาย ต้องช่วยกันแสดงน้ำใจว่าสมุทรสาครยังอยู่ดีมีสุข ยังไม่ใช่เมืองอันตรายหรือโซนห้ามเข้า สินค้าที่ออกจากที่นี่ยิ่งต้องมีความเข้มข้นในการตรวจตรามากขึ้น ขอให้ประชาชน ผู้บริโภคทั่วประเทศมั่นใจว่า สินค้าที่มาจากสมุทรสาครถูกหลักอนามัยและมีคุณภาพจริงๆ พวกเราจะผ่านไปด้วยกัน ถ้าทุกคนร่วมมือกัน สมุทรสาครไม่แพ้แน่นอน

Advertisement

ด้านนายดำรงค์ มั่นสิน ผู้ดูแลตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร บอกว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นผู้ซื้อขายกุ้งและปลาอยู่ในตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาครนั้น ก็ทำให้เกิดผลกระทบกับผู้ค้ารายอื่นด้วย แต่ในส่วนของมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ตลาดกลางกุ้งนั้น ทางตลาด ได้มีการตรวจคัดกรองโรคอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้แรงงานต่างด้าวที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าออกภายในพื้นที่ จึงเชื่อมั่นได้ว่าเชื้อโควิดนี้ ไม่น่าจะมาจากแรงงานต่างด้าวที่พักอาศัยหรือทำงานอยู่ภายในตลาดกลางกุ้ง แต่จะมาจากที่ใดนั้นก็ไม่ทราบเช่นกัน

นอกจากนี้ที่ตลาดทะเลไทย ซึ่งเป็นอีกตลาดหนึ่งที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสาคร และเป็นศูนย์กลางส่งออกสินค้าสัตว์น้ำรายใหญ่ของจังหวัดสมุทรสาคร ที่พลอยได้รับผลกระทบจากการพบเชื้อโควิด-19 ในตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาครไปด้วยนั้น ก็ได้จัดให้มีการตรวจคัดกรองโรคในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ โดยนำห้องตรวจปลอดเชื้อเคลื่อนที่ พร้อมอุปกรณ์ตรวจเชื้อโควิด-19 เข้าตรวจแรงงานข้ามชาติ (เมียนมา) ที่เข้าทำงานในพื้นที่จำนวน 200 คน อีกด้วย

นางอำไพ หาญไกรวิไลย์ ประธานสหกรณ์พัฒนาการประมงมหาชัย จำกัด พร้อมด้วย คณะกรรมการบริหาร และผู้ที่เกี่ยวข้อง ก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงทำความเข้าใจต่อสื่อมวลชนและบุคคลภายนอกว่า ตามที่มีข่าวว่าเจ้าของแพปลาในตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครติดโควิด 19 นั้น ข้อเท็จจริงคือ ผู้ติดเชื้อคนดังกล่าวเป็นเพียงผู้ซื้อขายที่ตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาครเท่านั้น ซึ่งตลาดกลางกุ้ง เป็นสถานที่คนละแห่งกับตลาดทะเลไทย และตั้งอยู่ห่างกัน จึงไม่อยากให้ประชาชนเกิดความสับสนระหว่างตลาดทะเลไทย กับ ตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร โดยตลาดทะเลไทยนั้นได้มีมาตรการป้องกันโควิด 19 ตามที่ทางราชการกำหนดและปฏิบัติเป็นประจำอย่างเคร่งครัด สำหรับผู้ที่เข้ามาใช้บริการตลาดทะเลไทย ตามนโยบายภาครัฐ คือ ผู้ที่เข้าตลาดทะเลไทย จะต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิและสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย , จัดให้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตรวจบนแพกุ้ง แพปลา หากพบใครไม่สวมหน้ากาก จะเชิญลงจากแพ , มีอ่างล้างมือพร้อม เจลล้างมือ สบู่ล้างมือ จุดล้างเท้า อาคารแพปลา แพกุ้ง 6 จุด , ล้างพื้นถนนรอบตลาด และอาคารแพกุ้ง อาคารแพปลา ทุกวันด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด,ร้านค้าอาหารในตลาดอนุญาตเฉพาะซื้อกลับบ้านเท่านั้น , ประชาสัมพันธ์ หลีกเลี่ยงการแออัดของผู้มาใช้บริการ,อาคารตลาดกุ้งเปิดทำการค้าขาย ตั้งแต่เวลา 24.00 น เป็นต้นไป,อาคารตลาดปลาเปิดทำการค้าขาย ตั้งแต่เวลา 04.00 น เป็นต้นไป,ห้องสุขาภายในตลาด มีการจัดอ่างล้างเท้า เจลแอลกอฮอล์และสบู่เหลวล้างมือ ไว้ให้สำหรับผู้ที่เข้ามาใช้บริการ และตลาดมีการจัดเก็บขยะและทำความสะอาดตลาดทุกวัน

ดังนั้น ขอให้มั่นใจได้ว่า ตลาดทะเลไทย ปลอดภัยแน่นอนและยังคงเปิดค้าขายเช่นเดิม โดยผู้ซื้อสามารถเข้ามาซื้อสินค้าในตลาดทะเลไทยได้เหมือนเดิม เพราะสินค้าที่เข้ามาขายในตลาดทะเลไทยทุกประเภท ไม่ว่าจะมาจากที่ใดจะต้องมีใบรับรองผ่านการตรวจสอบและยืนยันความปลอดภัยแล้วทุกราย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image