เกิดอุบัติเหตุ รถกระบะเฉี่ยวชนรถเก๋งเลี้ยวยูเทิร์นกลับรถ ก่อนเสียหลักพุ่งไปชนกับเสาไปฟ้า ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 บาดเจ็บ 2 บริเวณถนนเพชรเกษม ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี
เวลา 22.30 น. วันที่ 26 ธ.ค. พ.ต.ต.ชนินทณ์ อิ่มเจริญชัย สารวัตรเวร สภ.เมืองราชบุรี พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพาบาลราชบุรี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชานุกูลราชบุรี ตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังได้รับแจ้ง มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนถนนเพชรเกษม บริเวณทางกลับรถหน้ากองคลังแสงที่ 6 หมู่ที่ 4 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี
ที่เกิดเหตุภายในรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ สีบรอนด์ ทะเบียน บร – 9921 ราชบุรี ที่ชนอัดติดอยู่กับเสาไฟฟ้าส่องสว่างเกาะกลางถนน มีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายใน 2 คน เจ้าหน้าที่ได้ช่วยออกมาได้ก่อน 1 คน ส่วนอีก 1 คนถูกกระชังหน้ารถหนีบขาติดอยู่ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ พยายามนำเครื่องตัดถ่างเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างยากลำบาก เนื่องจากรถอยู่ในลักษณะตะแคงข้างตกอยู่ในร่องปูนเกาะกลางถนน โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็สามารถนำผู้บาดเจ็บออกจากรถได้เป็นรายที่ 2
ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ นายวรุณ พงปราง อายุ 20 ปี ชาวบ้านหมู่ 9 ต.ห้วยไผ่ อ.เมือง จ.ราชบุรี และ นายธิวา เกิดพร้อมพรรณ อายุ 26 ปี ที่นั่งมากับรถกระบะ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลราชบุรี
นอกจากนี้ยังพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย นอนอยู่บนถนนหน้ารถกระบะ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายโกศล แตงนิ่มนวล ซึ่งขณะเกิดเหตุได้กระเด็นออกมานอกรถ
สภาพบนถนนเพชรเกษม มีข้าวของเครื่องใช้ ทั้งพัดลม ลูกหมูตัดเหล็ก เครื่องมือช่าง และอุปกรณ์ต่าง ๆ หัวน็อต เศษอุปกรณ์สังกสีมุกหลังคาบ้าน ชิ้นส่วนรถยนต์หล่นเกลื่อนกระจัดกระจายเต็มพื้น รถยนต์เก๋งยี่ห้อซูซุกิ สีแดง ทะเบียน 3 กค 2413 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่กลางถนน สภาพด้านขวาของรถพังเสียหาย ล้อด้านหน้าฝั่งขวาแตกมีชายหนุ่ม อายุประมาณ 27 ปี ชาว ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นคนขับและยืนให้การกับตำรวจ
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า เจ้าของรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวได้ขับรถมาจากตัวเมืองราชบุรี ได้กลับรถช่วงยูเทิร์นจุดเกิดเหตุ ขณะกำลังเลี้ยวได้มีรถยนต์กระบะขับมามุ่งหน้าเข้าตัวเมืองราชบุรี ได้เฉี่ยวชนด้านขวาของรถยนต์เก๋ง จนทำให้รถกระบะเสียหลักพุ่งไปชนเสาไฟฟ้าส่องสว่างจนรถตกไปในร่องเกาะกลางถนน เป็นเหตุทำให้มีคนในรถกระบะที่มากัน 3 คน ได้รับบาดเจ็บ 2 คน และเสียชีวิต 1 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง
