เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เมื่อเวลาประมาณ 08.40 น. ที่ศาลาอเนกประสงค์วัดบ้านโนนกระเบื้อง ต.นิคม อ.พิมาย จ.นครราชสีมา นายจาตุรงค์ ถนอมกลาง ปลัดอำเภอพิมาย เป็นประธานในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างชาวบ้านโนนกระเบื้อง หมู่ 7 ต.นิคม อ.พิมาย กว่า 100 คน กับพระครูจันทสาร สิริธรรม เจ้าอาวาสวัดโนนกระเบื้อง และนายสามิตร หลุ่งเป้า, นายทองแดง หลุ่งเป้า ไวยาวัจกรของวัด หลังจากที่ชาวบ้านอ้างว่าพระครูจันทสาร สิริธรรม เจ้าอาวาสวัดโนนกระเบื้อง และไวยาวัจกรวัดทั้ง 2 คน นั้นมีพฤติกรรมไม่โปร่งใสในเรื่องการบริหารเงินของทางวัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินของค่าเช่าที่ธรณีสงฆ์ของวัด ที่ชาวบ้านได้มาเช่าที่ธรณีสงฆ์เป็นเนื้อที่กว่า 30 ไร่ ในราคาไร่ละ 1,500 บาทต่อปี เป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว ร่วมทั้งเงินจากการทอดผ้าป่า ทอดกฐิน อีกทั้งจากชาวบ้านได้พยายามสอบถามและขอให้มีการประชุมร่วมกับชาวบ้านถึงจำนวนเงินทุกอย่างแต่ถูกไวยาวัจกรของทางวัดบ่ายเบี่ยงและสั่งห้ามมาโดยตลอด ดังนั้น ชาวบ้านต้องการที่จะให้ไวยาวัจกรของวัดนั้นออกจากตำแหน่งทั้ง 2 คน และให้มีการแต่งตั้งชาวบ้านเข้ามาเป็นไวยาวัจกรคนใหม่ พร้อมทั้งให้กำนันผู้ใหญ่บ้านเข้ามาเป็นคณะกรรมการในการบริหารจัดการวัด
โดยในการไกล่เกลี่ยในครั้งนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารจากกองทัพภาคที่ 2 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าร่วมเป็นสักขีพยานซึ่งในการไกล่เกลี่ยต้องใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จึงมีข้อสรุปออกมาว่า ให้พระจันทสาร ได้มีการนำเอกสารรายรับรายจ่ายของทางวัดนั้นมาแสดงให้กับชาวบ้านได้ทราบ พร้อมทั้งได้มีการนำสมุดเงินฝากของทางวัด ที่มียอดเงินคงเหลืออยู่ที่ 117,729.30 บาท พร้อมทั้งสั่งให้ นายสามิตร หลุ่งเป้า และนายทองแดง หลุ่งเป้า ไวยาวัจกรวัดทั้ง 2 คน นั้นพ้นจากตำแหน่งไวยาวัจกรตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และให้ชาวบ้านนั้นเลือกคนที่มีคุณสมบัติ เพื่อที่จะทำการคัดเลือกให้เป็นไวยาวัจกรวัดโนนกระเบื้อง ในเร็วๆ และจะต้องมีการแต่งตั้งให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านเข้ามาเป็นคณะกรรมการในการบริหารจัดการวัด เพื่อความโปร่งใสในการตรวจสอบการเงินของทางวัด ดังนั้นเมื่อชาวบ้านได้รับทราบข้อสรุปในการไกล่เกลี่ยในครั้งนี้ก็ต่างพอใจก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ
นายจาตุรงค์ ถนอมกลาง ปลัดอำเภอพิมาย เปิดเผยว่า หลังจากนี้ไปก็จะต้องให้ชาวบ้านนั้นมีการเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติในการเข้ามาเป็นไวยาวัจกรของทางวัด โดยคาดว่าจะต้องให้มีการเลือกไวยาวัจกรวัดใหม่ให้เร็วที่สุดไม่เกินวันที่กลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ และจะต้องมีการแต่งตั้งให้กำนันผู้ใหญ่บ้านนั้นเข้ามาเป็นคณะกรรมการในการบริหารจัดการวัด เพื่อให้วัดนั้นสามารถบริหารจัดการต่อไปได้และเพื่อความโปร่งใสความสบายใจของชาวบ้าน
