2 สมาชิก ‘ลำพูนปลดแอก’ สารภาพแต่ไม่รับผิด คดี ‘พ.ร.บ.ชุมนุม-เครื่องเสียง’ หลังจัดม็อบประณาม ฉีดแก๊สน้ำตาหน้ารัฐสภา
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 มกราคม ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองลำพูน ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (TLHR) รายงานว่า น.ส.อุทัยวรรณ บุญลอย อายุ 41 ปี และ น.ส.รตี ช่วงแก้ว อายุ 42 ปี ประชาชนในจังหวัดลำพูน และสมาชิกกลุ่มลำพูนปลดแอก เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองลำพูน พร้อมด้วยทนายความเครือข่ายของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการชุมนุมในที่สาธารณะโดยไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่ ก่อนการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง” และ “ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องเสียงด้วยกําลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ และ พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ จากการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 บริเวณสะพานท่าขาม จ.ลำพูน เพื่อคัดค้านการฉีดแก๊สน้ำตาและสารเคมีสลายการชุมนุมโดยเจ้าหน้าที่รัฐ บริเวณแยกเกียกกาย หน้ารัฐสภา กรุงเทพฯ
โดยผู้ต้องหาได้ยินยอมให้ตำรวจเปรียบเทียบปรับ ข้อหาตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ 300 บาท และ พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง 100 บาท รวมคนละ 400 บาท ก่อนทำการลงบันทึกประจำวัน และเดินทางกลับ แต่ทั้ง 2 เลือกที่จะต่อสู้ในคดีการชุมนุมในจังหวัดลำพูน เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2563 บริเวณหน้าวัดมหาวัน และวันที่ 19 ตุลาคม 2563 บริเวณสะพานท่านาง ซึ่งคดีรอการนัดถามคำให้การและตรวจพยานหลักฐานที่ศาลจังหวัดลำพูนในวันที่ 18 มกราคม 2564
ทั้งนี้ ก่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้นำป้ายข้อความ “สารภาพ แต่ไม่รับผิด” มาชูแสดงสัญลักษณ์ด้านหน้าสถานีตำรวจ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา และยินยอมให้ปรับในวันนี้ของทั้งสองคน เป็นเพียงการตัดปัญหาความยุ่งยากและภาระในกระบวนการยุติธรรมที่จะต้องพบเจอเท่านั้น ไม่ใช่การยอมรับว่าการกระทำของทั้งสองนั้นเป็นความผิดแต่อย่างใด โดยก่อนหน้านี้ ทั้ง 2 ราย เคยถูกดำเนินคดีด้วยข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ และได้ถูกส่งฟ้องต่อศาลแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการต่อสู้คดี
