สมุทรสาคร วุ่น! ปชช.แห่ขอใบอนุญาต ล้นที่ว่าการอำเภอ สกัดแออัด มอบ ‘กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน-เทศบาล-อบต.’ เซ็นได้
จากกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เซ็นยกระดับคุมสูงสุด 5 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด และ สมุทรสาคร ออกนอกพื้นที่ต้องมีเอกสารรับรอง ฝ่าฝืนโทษหนัก ลงวันที่ 6 มกราคม และ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 17) โดยมีสาระสำคัญ 4 ข้อ 1.ยกระดับการบังคับใช้มาตรการป้องกันโรค ให้ประชาชนในพื้นที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่น “หมอชนะ”, 2.ยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุด เข้มงวดอย่างยิ่ง ตรวจสอบเส้นทางคมนาคม ใน 5 จังหวัด คือ จันทบุรี ชลบุรี ตราด ระยอง สมุทรสาคร อย่างเข้มข้น บุคคลที่จะออกนอกพื้นที่ ต้องแสดงเหตุผลความจำเป็น บัตรประชาชน บัตรแสดงตนอื่นๆ ควบคู่กับเอกสารรับรอง ต่อเจ้าหน้าที่
3.ปราบปรามลงโทษผู้กระทำผิดเด็ดขาด จัดการเจ้าหน้าที่ที่รู้เห็นให้มีบ่อนพนันในพื้นที่อันเป็นต้นตอของการระบาด และ 4.โทษของผู้ฝ่าฝืน จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยผู้ติดเชื้อที่จงใจปกปิดข้อมูลเดินทาง ปกปิดไทม์ไลน์ ถือว่ามีความผิดด้วย
วันที่ 7 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศของการตั้งจุดตรวจ – จุดสกัดร่วม รักษาความสงบเรียบร้อยและป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ของสถานีตำรวจภูธรบ้านแพ้ว อำเภอบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ตามพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 บนถนนสายพระประโทน – บ้านแพ้ว ฝั่งขาออก ภายใต้การควบคุมของ ร.ต.ท.ณัฏฐพล มีสุวรรณ รอง สวป.สภ.บ้านแพ้ว มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านแพ้ว ทหารค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน ฝ่ายปกครอง ขนส่งจังหวัด และสาธารณสุขอำเภอ ตั้งจุดตรวจฯ ผู้ที่เดินทางออกจากพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร
โดยในวันแรกนี้จะเน้นไปที่ผู้ใช้ทะเบียนรถจังหวัดสมุทรสาคร เป็นหลักก่อน นอกเหนือจากการตรวจวัดอุณหภูมิแล้ว ยังได้มีการสอบถามว่าจะเดินทางไปไหน ผู้ขับขี่มีใบอนุญาตขอออกนอกพื้นที่หรือไม่ รวมถึงมีการสแกนแอพพลิเคชั่น “หมอชนะ” แล้วหรือยัง ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ได้ไปขอใบอนุญาตฯ เนื่องจากเป็นการเดินทางในพื้นที่ และยังอยู่เพียงแค่รอยต่อที่ติดกัน ระหว่างจังหวัดสมุทรสาคร กับ จังหวัดนครปฐม และ จังหวัดราชบุรี ส่วนเรื่องแอพพลิเคชั่น “หมอชนะ” นั้น ก็มีผู้ที่เริ่มสแกนแล้ว
ส่วนการตั้งจุดตรวจ – จุดสกัดร่วม รักษาความสงบเรียบร้อยและป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ของ สภ.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร บนถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้า กทม. ก็มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางโทรัด ตำรวจทางหลวง ทหาร ฝ่ายปกครอง ขนส่งจังหวัด และสาธารณสุขอำเภอ ตั้งจุดตรวจฯ ทั้งตรวจวัดไข้ ลงบันทึกจำนวนบุคคลภายในรถแต่ละคัน และแนะนำเรื่องการติดตั้งแอพพลิเคชั่น หมอชนะ เป็นต้น
พร้อมกันนี้ยังได้เน้นย้ำให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ รวมถึงป้องกันตนเองและครอบครัว ไม่จำเป็นก็ให้งดการเดินทางออกต่างจังหวัด
ขณะที่บรรยากาศของการขอหนังสืออนุญาตเดินทางออกนอกจังหวัดสมุทรสาคร ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรสาคร ในเช้าวันแรกนี้ ก็เป็นไปอย่างค่อนข้างจะชุลมุน เพราะมีประชาชนจำนวนมากมารอขอทำหนังสืออนุญาตออกนอกพื้นที่จนเรียกได้ว่าแทบจะล้นอำเภอเมืองสมุทรสาคร เพราะต้องเดินทางไปทำงาน หรือค้าขาย หรือไปธุระส่วนตัว
ซึ่งทางด้านของนายณัฐภัทร เอมอ่อน นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ก็บอกว่า การขอหนังสืออนุญาตออกนอกจังหวัดสมุทรสาครนี้ เบื้องต้นได้วางมาตรการแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ 1.ผู้ประกอบการ จะมีแบบฟอร์มให้กรอกว่ามาจากบริษัทอะไร มีใครไปบ้าง และไปส่งสินค้าที่ไหน ปลายทางที่ใด และกลับเมื่อไหร่ โดยผู้ประกอบการสามารถออกหนังสือรับรองตนเองได้
2.สำหรับข้าราชการและพนักงานประชาชนที่จะต้องเดินทางออกนอกจังหวัดเพื่อไปทำงานเป็นประจำทุกวัน ทางหน่วยงานต้นสังกัด สามารถออกหนังสือรับรองได้ โดยจะออกคำสั่งครอบคลุมไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2564
และ 3. สำหรับประชาชนทั่วไป ที่ต้องเดินทางออกไปธุระเป็นครั้งคราว ก็ให้แจ้งความจำเป็นที่จะต้องไป สถานที่ และเวลาเดินทางไปกลับ ซึ่งในส่วนประชาชนที่จะเดินทางเป็นครั้งคราวนั้นทางฝ่ายปกครองได้มอบอำนาจให้กับทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือเทศบาล อบต.สามารถออกหนังสืออนุญาตนี้ได้ โดยไม่จำเป็นต้องมาที่ว่าการอำเภอ เพื่อลดการแออัด แต่ข้อมูลทุกอย่างต้องส่งมาให้ที่ว่าการอำเภอเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน