จับแล้ว! คนร้ายขี่ จยย. ประกบถีบรถหญิงวัย 20 กับลูก2ขวบ เพื่อชิงทรัพย์ รับนำเงินเที่ยวเตร่-เสพยา

จับแล้ว! คนร้ายขี่ จยย. ประกบถีบรถหญิงวัย 20 กับลูก2ขวบ เพื่อชิงทรัพย์ รับนำเงินเที่ยวเตร่-เสพยา

วันที่ 7 มกราคม เจ้าหน้าที่ ชุดสืบสวน สภ.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติจ.สระบุรี นำตัว นาย ธีรเทพ ดีเพ็ง อายุ 35 ปี มาสอบสวน ในข้อหาชิงทรัพย์เมื่อวันที่ 2 มกราคม พร้อมอายัดรถจักรยานยนต์ และเสื้อผ้า และหมวกกันน็อกที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ

เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นขณะที่ น.ส. ทิพย์รัตน์ อายุ 20 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ กลับจากทำธุระโดยมีลูกชาย วัย 2 ขวบนั่งมาด้วย นายธีรเทพ คนร้ายขี่จักรยานยนต์สะกดรอยตาม ก่อนใช้เท้าถีบไปที่รถจักรยานยนต์ของ น.ส. ทิพย์รัตน์ พร้อมกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทและพระเลี่ยมทองที่คอ รวมถึงกระเป๋าถือซึ่งภายในมีทรัพย์สิน พระเลี่ยมทอง เงินสดจำนวนหนึ่ง บัตรเอทีเอ็ม และโทรศัพท์มือถือหลบหนีไป

ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และรูปพรรณสัณฐานคนร้ายอย่างละเอียด พร้อมทั้งเชื่อมโยง เส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี ประกอบกับคำให้การของผู้เสียหาย เพื่อนำไปตรวจสอบฐานข้อมูล ประวัติอาชญากรรม จนทราบตัวผู้ต้องสงสัย

นอกจากนี้ พ.ต.ต ณภัทร จินพล สารวัตรสืบสวน สภ.หน้าพระลาน เผยว่าเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเส้นทางคนร้ายจากกล้องวงจรปิด กระทั่งพบภรรยาของผู้ต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุมาบริเวณตลาดหน้าพระลาน ชุดสืบสวนจึงสะกดรอยตามไปยัง ห้องเช่า บริเวณ ต.เขาวง อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ซึ่งใช้เป็นที่กบดานหลังก่อเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าควบคุมตัว และสอบสวนจนนายธีรเทพยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ น.ส. ทิพย์รัตน์ จริง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายธีรเทพไปชี้จุดที่นำทรัพย์สินมาคัดแยกบริเวณป่าละเมาะไม่ไกลจากที่พัก โดยคนร้ายรับว่าได้เลือกหยิบเงินสด กับของมีค่าที่สามารถนำไปขายต่อเอาไว้ และทิ้งสิ่งของอื่นๆ ที่ไม่ต้องการไว้ในป่า

Advertisement

พ.ต.อ ชาลี เดชศิริ ผู้กำกับ สภ.หน้าพระลาน เปิดเผยว่า นายธีรเทพ เคยก่อคดีลักษณะดังกล่าว มาแล้วรวม 5 ครั้ง และเคยติดคุกตามหมายจับในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ พิษณุโลก และยังเคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์เป็นโทรศัพท์มือถือที่อำเภอแก่งคอย จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ที่ผ่านมา กระทั่งล่าสุดชิงทรัพย์ในพื้นที่ สภ.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี

จากการสอบสวน นายธีรเทพ ยอมรับว่าหลังก่อเหตุจะนำเงิน ที่ได้ไปใช้จ่ายและซื้อยาเสพติดมาเสพ ส่วนขณะก่อเหตุกับ น.ส. ทิพย์รัตน์ ที่มีลูกชายวัย 2 ขวบมาด้วย ยืนยันว่าไม่ได้คิดจะทำร้าย เพียงแค่จะชิงทรัพย์เท่านั้น ส่วนสร้อยคอทองคำและพระเลี่ยมทองที่ผู้เสียหายแจ้งความไว้ นาย ธีรเทพให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ชิงไป ยอมรับเพียงว่านำกระเป๋าผู้เสียหายไปจริง และบอกว่าภายในกระเป๋ามีเงินจำนวน 400 บาทเท่านั้น ส่วนพระเลี่ยมทองที่อยู่ในกระเป๋าถือ นายธีรเทพบอกว่า ไม่ใช่ทองคำจึงไม่ได้สนใจ อย่างไรก็ตาม ตำรวจชุดสืบสวนยังไม่ปักใจเชื่อ และอยู่ในระหว่างรวบรวมหลักฐานและวัตถุพยานเพิ่มเติม

น.ส. ทิพย์รัตน์ เผยว่ารู้สึกดีใจที่ทางตำรวจสามารถจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว และฝากเตือนว่าพยายามอย่าพกของมีค่าไปในที่สาธารณะ เพราะอาจเกิดอันตรายได้

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image