สนามบินเชียงใหม่ แจงเหตุจนท.ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวติดเชื้อโควิด

วันที่ 8 มกราคม 2564 นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทชม.ทอท.) กล่าวว่า หลังจากได้รับการประสานจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ให้ตรวจสอบไทม์ไลน์ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ณ จุดให้บริการศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ระหว่างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ ใกล้กับประตูทางเข้าออกหมายเลข 6 เนื่องจากได้รับการยืนยันเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 58 ของจังหวัดเชียงใหม่ ทชม.จึงได้เร่งตรวจสอบตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 7 มกราคม 2564 พบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ประจำ ทชม.

“จากการตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) พบว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเข้ามาปฏิบัติงาน ณ ทชม.จนถึงวันที่ 3 มกราคม 2564 และประจำอยู่ภายในเคาน์เตอร์จุดให้บริการ โดยสวมหน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา และไม่พบการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้โดยสารผู้ใช้บริการ รวมถึงพนักงานของ ทชม.ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ติดตามตัวผู้เสี่ยงสัมผัสไปตรวจหาเชื้อเรียบร้อยแล้ว และเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ทชม.จึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปฏิบัติงานในช่วงวันเวลาดังกล่าว เฝ้าสังเกตอาการ หากมีไข้ ไอ เจ็บคอ หรือมีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมกันนี้ได้ประสานเทศบาลตำบลสุเทพ เข้ามาดำเนินการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคในบริเวณพื้นที่ ที่ผู้ติดเชื้อคนดังกล่าวปฏิบัติงานเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งได้งดการใช้งานพื้นที่ประตูทางเข้าออกอาคารหมายเลข 6 ตั้งแต่วันที่ 8-11 มกราคม 2564”

ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวด้วยว่า ทชม. ถือปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุขและจังหวัดเชียงใหม่ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด ทั้งภายในอาคารผู้โดยสาร และอาคารสำนักงาน โดยมีการปฏิบัติ ดังนี้

1. ตรวจคัดกรองด้วยการวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าอาคารผู้โดยสารและอาคารสำนักงาน

Advertisement

2. เน้นย้ำให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา

3. ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่อยู่ภายในอาคารผู้โดยสาร

4. วางเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ตามจุดให้บริการต่างๆ ภายในอาคารผู้โดยสาร

5. เพิ่มรอบความถี่การทำความสะอาดโดยใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อตามสถานที่และจุดสัมผัสต่างๆ เช่น ลิฟท์โดยสาร ราวจับบันได ที่จับประตู ปุ่มกดชักโครก ที่จับรถเข็นกระเป๋า และเก้าอี้พักคอย วันละ 8 รอบ

6. กำหนดระยะห่างของการให้บริการในขั้นตอนต่างๆ รวมถึงการใช้สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น เก้าอี้พักคอย การรอตรวจบัตรโดยสาร

ทั้งนี้ ทชม.จะติดตามสถานการณ์ และพร้อมให้ความร่วมมือกับจังหวัดเชียงใหม่อย่างเต็มที่ เพื่อยับยั้งและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ในขณะนี้ ให้ยุติโดยเร็ว และขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และบุคคลากรทางการแพทย์ รวมถึงผู้ป่วยและผู้ที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้ ผ่านพ้นสถานการณ์และสามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามปกติได้ในเร็ววัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image