จังหวัดระยองยังเสี่ยงสูง เชื้อโควิดเริ่มขยายไปยังกลุ่มเพื่อน พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 15 ราย

จังหวัดระยองยังเสี่ยงสูง เชื้อโควิดเริ่มขยายไปยังกลุ่มเพื่อน พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 15 ราย

จังหวัดระยองยังเสี่ยงสูง เชื้อโควิดเริ่มขยายไปยังกลุ่มเพื่อน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 15 ราย รวมผู้ติดเชื้อ 509 ราย รักษาหายเพิ่มขึ้น 249 ราย ประชาชนทุกคนยังต้องเฝ้าระวังตนเองอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้(10 มกราคม 2564) ที่ห้องประชุมอินทรวิชิต ชั้น 3 ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และภก.วีระศักดิ์ เจียมอนุกูลกิจ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง แถลงสถานการณการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 10 มกราคม 2564

นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ของจังหวัดระยอง ยังมีความเสี่ยงสูง เชื้อได้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15 ราย เป็นชาวไทย 13 ราย ต่างชาติ 2 ราย โดยพบผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ อ.แกลง 9 ราย ประกอบด้วย ต.ท่าเกวียน 5 ราย ,ต.ชากพง 1 ราย,ต.บ้านนา 1 ราย ,ต.วังหว้า 1 รายและห้วยยาง 1 ราย ส่วนอำเภอเมือง 3 ราย ประกอบด้วย ต.เชิงเนิน 1 รายและทับมา 2 ราย และอำเภอเขาชะเมา ต.ซำฆ้อ 3 ราย ซึ่งจากการสอบสวนโรค พบผู้ป่วยในเขตอำเภอแกลงได้ไปเล่นสนุกเกอร์ด้วยกันกับผู้ป่วยรายเดิมที่ติดเชื้อก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังพบผู้ติดเชื้อเป็นพนักงานโรงเบียร์ ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 26-31 ธันวาคม 2563 จากนั้นได้หยุดงาน จึงขอให้ผู้ที่เดินทางไปโรงเบียร์พลูตาหลวงในช่วงวันดังกล่าว รีบเข้ารับการตรวจเชื้อและกักตัวรอสังเกตุอาการที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน

สำหรับการขอหนังสือรับรองการเดินทาง กระทรวงมหาดไทย ได้ออกหลักเกณฑ์เพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน จากเดิมให้นายอำเภอ ปลัดอำเภอ ปลัดองต์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้รับรอง และตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ประชาชนสามารถขอหนังสือรับรองการเดินทางได้ที่สถานีตำรวจ และหัวหน้าส่วนราชการทุกแห่ง

และภก.วีระศักดิ์ เจียมอนุกูลกิจ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาล จำนวน 169 ราย ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ มีเพียง 21 ราย มีอาการปอดอักเสบ นอกจากนนี้มีผู้ป่วยรักษาหายและเดินทางกลับบ้านแล้ว 249 ราย ทั้งนี้ ประชาชนทุกคนยังจำเป็นต้องเฝ้าระวังดูแลเองอย่างต่อเนื่อง โดยใช้มาตรการเดิม คือ เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ใส่หน้ากากอนามัย และไม่เดินทางไปยังสถานที่ที่มีคนแออัด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image