ลุงขี่ จยย.ไปบ้านแม่ จะไปหาภรรยาต่อ แต่ไม่มีเงิน ขายหมวกกันน็อกแลกค่าน้ำมัน ช้ำ ภรรยาโทรบอกไม่ต้องกลับมาแล้ว
เมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.เทียนชัยปิโตรเลียม ริมถนนเพชรเกษม ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบชายวัย 64 ปี ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง บรรทุกข้าวของเครื่องใช้ อาทิ กระเป๋าเสื้อผ้า ครก สาก กระติกน้ำ ตะกร้าผ้า เสื้อผ้า มาจอดที่ข้างหัวจ่ายน้ำมัน พร้อมเจรจากับพนักงานหญิงในปั๊ม เพื่อเสนอขายหมวกกันน็อกของตัวเองที่สวมใส่อยู่บนศีรษะในราคา 50 บาท เพื่อจะนำเงินมาเติมน้ำมันใส่รถจักรยานยนต์ขี่กลับบ้านที่ จ.กาญจนบุรี ทำให้พนักงานคนดังกล่าวอึ้งไปชั่วขณะ เบื้องต้น พนักงานในปั๊มได้สอบถามเรื่องราวและเกิดความเห็นใจ จึงช่วยกันเรี่ยไรเงินกับเพื่อนๆ คนละเล็กคนละน้อย เพื่อนำเงินมาจ่ายค่าน้ำมันให้คุณลุงคนดังกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงที่ปั๊ม ได้สอบถามเรื่องราวกับคุณลุง ทราบชื่อคือ นายเอี่ยม สนิทชอบ อายุ 64 ปี ชาว ต.จรเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยมีอาชีพต่อยมวยมาตั้งแต่วัยหนุ่ม ฉายา “สิงห์ดง สิงห์หนองแฟง” ต่อยมามากกว่า 300 ไฟต์ เคยต่อยคู่ต่อสู้ร้องไห้มาหลายคนแล้ว นอกจากนี้ยังเคยมีค่ายมวยเป็นของตนเองชื่อ “ค่ายสิงห์หนองแฟง” ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี แต่ได้เลิกชกมานานมาแล้ว จึงหันไปทำอาชีพขายสับปะรดอยู่ที่ จ.กระบี่ และสุราษฎร์ธานี
นายเอี่ยมกล่าวว่า กำลังจะขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างกลับมาหาแม่ที่ ต.จรเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี และจะกลับไปหาภรรยาที่อยู่กินกันมา 11 ปี ที่ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง โดยจะขี่ไปเรื่อยๆ ค่ำไหนจะนอนนั่น และไม่มีเงินติดตัวมาเลย มีเพียงน้ำมันรถอยู่ในถัง คิดว่าระหว่างทางจะไปเบิกเงินผู้สูงอายุจำนวน 600 บาทที่มีอยู่ในบัญชี เพื่อเติมน้ำมันให้ไปถึงเมียที่อยู่ จ.ตรัง แต่เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์ ธนาคารปิด ระหว่างถึงราชบุรี ทางภรรยาได้โทรศัพท์กลับมาบอกว่าไม่ต้องไปหาแล้ว เพราะฉันมีสามีใหม่แล้ว ลุงจึงเสียใจมาก จึงได้หันหัวกลับ แต่เงินในกระเป๋าไม่มี รถน้ำมันก็ใกล้หมด จึงตัดสินใจเข้าปั๊มน้ำมัน เพื่อจะขายหมวกกันน็อกราคา 50 บาทให้กับพนักงานในปั๊ม แลกกับการเติมน้ำมันรถ
นายเอี่ยมกล่าวอีกว่า ตนเองมีลูกสาวอยู่คนเดียวกับภรรยาคนแรก ขณะที่สมัยก่อนเคยมีภรรยามาแล้วประมาณ 40 คน แต่ตอนนี้รู้ว่าไม่มีใครรักเราเท่าแม่อีกแล้ว จึงต้องกลับไปอยู่กับแม่ที่กาญจนบุรี
ด้าน น.ส.ปุณณสิริ แต่แดงเพชร หรือปู พนักงานเติมน้ำมันที่ปั๊ม เปิดเผยว่า เห็นลุงมาเติมน้ำมันแล้วไม่มีเงินจึงไปเรี่ยไรเงินกับเพื่อนๆ คนละ 20 บาท ได้เงินมา 50 บาท เอามาเติมน้ำมันให้ลุงไป ซึ่งตอนแรกที่เจอลุงเขาบอกว่าไม่มีเงินและจะขายหมวกกันน็อกให้ 1 ใบ ตนเห็นแล้วไม่เอา และได้บอกว่าถ้าลุงไม่สวมหมวกกันน็อกเดี๋ยวตำรวจจับ จึงมาเรี่ยไรเงินช่วยเหลือลุงกันไปเท่าที่จะช่วยเหลือกันได้
